คำตอบ คือ เซ็ตทรงเทพได้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับเส้นผมและความชอบของแต่ละคนนั่นเองครับ กล่าวคือ เส้นผมแต่ละคนมีความหนา บาง สั้น ยาว แตกต่างกัน เมื่อเรารู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าเส้นผมของตัวเองเป็นอย่างไีร จากนั้น ให้นึกภาพว่าอยากให้ตัวเองออกมาในลุคไหน แล้วค่อยตัดสินใจเลือกภายหลังว่าจะใช้ เจล หรือ แว๊กซ์ ครับ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ "เจล" กันก่อนดีกว่า เจลนั้นจะมีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก ไร้ความมัน เหมาะสำหรับคนผมสั้น แค่ทาถูๆกับมือ แล้วจัดแต่งทรงผมตามต้องการก็เป็นอันเรียบร้อย จุดเด่นของเจล คือ จะทำให้ผมดูแข็งและคงสภาพที่แต่งไว้อยู่ตลอด นำมาสู่ข้อควรระวังที่ว่า เมื่อใช้เจลแล้ว มันจะแห้งแล้ว แห้งเลย แข็งเป๊ก เจอพายุก็ยังไม่กระดิก ถ้าคิดจะเปลี่ยนทรงระหว่างวันก็ต้องใช้น้ำล้างเท่านั้น ดังนั้นก่อนออกจากบ้าน ดูให้ดีๆก่อนนะครับว่าทรงนี้โดนใจจริงๆ ไม่งั้นอาจเกิดปัญหาโอละพ่อ! อยากเปลี่ยนทรงผมทีหลัง บอกตรงๆว่าใช้เจลน่ะไม่สามารถครับ ทำใจ รออาบน้ำที่บ้านอย่างเดียว
ส่วน “แว๊กซ์” เจ้านี่จะช่วยให้ผมของคุณอยู่ทรงโดยที่ไม่ทำให้ผมแข็งจนเกินไป ไม่ติดกันเป็นก้อนและดูพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้มันยังทำให้ผมดูมีน้ำหนักและเงางามอีกด้วย เพราะส่วนผสมของแว็กซ์นั้นมาจากน้ำมันพืชหรือน้ำมันจากแร่ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยจัดแต่งทรงผมได้อย่างรวดเร็วและได้ทรงผมตามที่ต้องการ ใช้ได้ทั้งคนผมสั้นและผมยาว
ข้อดีอีกอย่างของแว็กซ์ คือ เมื่อใดก็ตามที่คุณเกิดติสต์ อยากเปลี่ยนสไตล์ทรงผมขึ้นมาดื้อๆ ก็สามารถจัดทรงใหม่ได้โดยไม่ต้องล้างออก แค่ใช้มือค่อยๆ จัดแต่งตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีขั้นกว่าของแว๊กซ์ คือ รับเบอร์ (Rubber) ซึ่งขนเอาข้อดีของแว๊กซ์มาทุกประการ แต่จะมีเนื้อที่บางเบาและยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้จัดแต่งทรงผมตามสถานการณ์ได้ตลอดทั้งวัน และด้วยความเบาของเนื้อรับเบอร์จึงทำให้ผมไม่จับตัวเป็นก้อน หรือเหนียวพันกัน เทพขนาดนี้ น่าลองหาใช้กันสักกระปุกนะครับ