การดูแลเด็กทารกถือเป็นอีกสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากๆ พัฒนาการของเจ้าตัวเล็กจะขึ้นอยู่กับทุกๆ สิ่งรอบตัวของเขา ดังนั้นไม่แปลกเลยที่มนุษย์จะชอบคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เพื่อให้เด็กทารกนั้นได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
ที่นอนเด็กทารก ปี ค.ศ. 1916ในเมื่อประชากรของโลกนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ (เยอะมาตั้งแต่อดีต) พื้นที่อาศัยก็หนาแน่นขึ้น คนจำนวนมากกังวลเรื่องการเลี้ยงดูเด็กในพื้นที่แคบๆ ดังนั้นนักประดิษฐ์ก็ไม่ยอมนิ่งนอนใจ ทำการสร้างที่นอนเด็กขนาดไม่ใหญ่มากซึ่งสามารถยื่นออกไปนอกตัวบ้านได้
โครงสร้างของเจ้าที่นอนนี้แข็งแรง โครงเหล็กที่รองเด็กสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม ซึ่งยังแข็งแรงพอที่จะต้านลมแรงๆ อีกทั้งยังมีหน้าต่างที่มีตาข่ายป้องกันไม่ให้เด็กปีนออกจากตัวเฉลียง และป้องกันแมลงรบกวนได้ด้วย จากรูปภาพด้านบนจะเห็นได้ว่า ที่นอนเด็กรุ่นนี้ใหญ่พอที่จะใส่รถเข็นเด็กทำให้คุณแม่ประหยัดเนื้อที่ในบ้านได้ คราวนี้เด็กทารกของเราก็จะมีช่วงเวลาที่ได้เห็นภายนอกบ้าน พร้อมรับบรรยากาศต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้นทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ โดยเฉพาะกับนักประดิษฐ์อย่าง Sheldon D. Vanderburgh ที่อยู่ในย่าน Hastings-on-Hudson ของ New York ปี ค.ศ.1917 ที่ไม่สามารถรับมือกับเด็กทารกที่กำลังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เขาจึงหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยการประดิษฐ์เปลขึ้นมา
เริ่มจากการนำเปลจากตาข่าย (คล้ายๆ เปลญวน) โดยหุ้มตาข่ายรอบๆ ของบางอย่างที่เหมือนตะกร้า และแขวนมันไว้กับเฟรมไม้ขนาดใหญ่ Vanderburgh ตระหนักว่ามันจะดีไม่น้อยถ้าเปลของเขาสามารถไกวเองได้ เขาจึงติดมอเตอร์เข้าไป โดยเสียงตอนมอเตอร์ที่ทำงานเบาๆ ช่วยให้เด็กหลับสบายขึ้นอีกด้วยนะ
นอกจากนี้ Luther P. Jones นักประดิษฐ์ ในปี ค.ศ. 1920 ก็ได้สร้างเปลที่ไกวโดยใช้มอเตอร์แต่หรูหรามากกว่า เพราะตอนเด็กตื่นนอนจะพบว่าล้อที่เป็นฐานของเปลนั้น เคลื่อนที่ได้อีกด้วย หน้าตาก็เป็นดั่งภาพต่อไปนี้
ผู้โดยสารรถไฟต้องรู้สึกรำคาญเสียงเด็กร้องไห้งอแงเป็นธรรมดาอยู่แล้วหล่ะ แต่พวกเราก็ได้แต่หวังว่าจะมีนักประดิษฐ์สักคนที่สร้างเครื่องมือที่ช่วยลดเสียงจากเด็กทารกเหล่านี้ระหว่างช่วงค่ำคืนของการหลับนอนออกมา นี่เลย เราแนะนำ แคปซูลเก็บเสียงสำหรับเด็กทารก โดย Caleb M. Prather จาก Illinois
Prather ได้ดีไซน์เจ้าแคปซูลเครื่องที่นี้ โดยระหว่างที่เด็กตื่น เด็กสามารถนั่งบนแคปซูลที่เปิด โดยขณะที่หลับก็จะปิดแคปซูล เด็กสามารถหายใจผ่านรูอากาศได้
การลักพาตัวเด็กยังคงมีให้เห็นตลอด ดังนั้นที่นอนเด็กที่สามารถส่งเสียงเตือนภัยโดยใช้ Black Light จึงเกิดขึ้นมา ที่นอนเด็กซ่อน Black Light อยู่ข้างใต้ โดยจะมีเสียงเตือนหากมีอะไรรุกล้ำเข้ามาในคอกกั้น หรือที่นอนของเด็ก แต่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ก็อยู่ได้ไม่ค่อยนานเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่ของเด็กไม่ค่อยชอบที่มีเครื่องมือเหล่านี้อยู่ใต้ที่นอนของลูกที่รัก
เป็นเรื่องดีถ้าได้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งกับลูกน้อย ถ้าดูเผินๆ เจ้าที่นั่งเด็กสำหรับจักรยานจะดูไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ Emile Eberle ชาว Switzerland ผู้ประดิษฐ์สิ่งนี้ก็ยังยืนยันว่ามันปลอดภัยเพียงพอ โดยที่นั่งนี้จะถูกรัดไว้กับคอจักรยาน และล้อหน้า เพื่อให้เวลาเราบังคับจักรยานตัวที่นั่งก็จะเคลื่อนที่ และหมุนไปในทิศทางเดียวกันกับผู้ขับนั่นเอง
กรณีมีสงครามเกิดขึ้น การใช้อาวุธต่างๆ ล้วนก่อให้เกิดสารเคมี และทำให้อากาศเป็นพิษต่อลูกน้อยของเราได้ ดังนั้นถุงชิ้นนี้จะมีตัวกรองอากาศ และที่ปั๊มอากาศ โดยใครก็ตามที่อุ้มเด็กอยู่สามารถควบคุมปริมาณอากาศบริสุทธิ์ให้เข้าไปในถุงกันแก๊สพิษโดยใช้ตัวปั๊มอากาศนั่นเอง
จากนั้นก็มีการอัพเกรดหลายต่อหลายครั้ง มีการวิจัยต่างๆ เป็นเวลาถึง 3 ปี และได้หน้ากากที่ดีขึ้น
ไม่มีใครอยากกับบ้านไปพร้อมกับลูกน้อยของคนอื่นหรอกนะ นักประดิษฐ์ด้านการใช้แสงUV จึงสร้างเครื่องมือที่คล้ายกับการติดฉลาก โดยยิงแสงลงไปบนผิวหนังของเด็กเลย เท่านี้ก็ทำให้ลดความสับสนได้แล้วหล่ะ โดยแสง UV ที่ยิงเครื่องหมายไปนั้นก็คือชื่อของเด็ก และจะค่อยๆ เลือนหายหลังจากผ่านไปประมาณ 2 – 3 อาทิตย์ คราวนี้ก็กลับบ้านพร้อมกับลูกที่ถูกต้องได้แล้ว (ในรูปหน้าตาคุณแม่มองไปยังพยาบาลอย่างมีความหวัง)
พ่อแม่ส่วนใหญ่สอนให้ลูกฝึกเดินโดยการอุ้มเด็กขึ้น และก็ช่วยพยุงให้เด็กค่อยๆ เดินไปมา หรือบ้างก็ใช้รถติดล้อ (พบเห็นได้มากในปัจจุบัน) แต่นักประดิษฐ์ชาว Swiss ก็มีไอเดียเก๋ไก๋ที่จะทำให้การฝึกเดินของเด็กมีความ Extreme ขึ้น (55) โดยการนำไม้ซึ่งมีที่รัดขาทั้งของเด็ก และผู้ฝึกเดินไว้ด้วยกัน โดยเราสามารถกำหนดทิศทางการเดินของเด็กได้ง่ายขึ้น (รึเปล่า?) และเพื่อป้องกันเด็กล้มหัวทิ่มพื้น ก็ยังมีเสื้อที่มีสายจูงให้ผู้ฝึกเดินจับไว้ เจ๋งมั้ยหล่ะ
ที่มา popsci