ย้อนรอย 4 คดีสยอง! หมอกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคน
คดี น.พ.อุทิศ ฆ่านวลฉวี
เป็นคดีที่โด่งดังที่สุดคดีแรกที่คนอาชีพหมอฆ่าคนในประวัติศาสตร์ของไทย สำหรับคดี นวลฉวี พยาบาลที่ถูกฆ่าข่มขืนอย่างทารุณแล้วโยนศพทิ้งน้ำ บริเวณสะพานนนทบุรี หรือที่รู้จักกันในนามสะพานนวลฉวี เหตุเกิดเมื่อ พ.ศ. 2502 โดยผู้ที่บงการสั่งฆ่านั่นก็คือ น.พ.อุทิศ ราชเดช สามีของเธอ ก่อนนี้ทั้งคู่ก็มีปัญหาทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจาก น.พ.อุทิศ เป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงมาติดพันมากมาย และมีการจดทะเบียนสมรสซ้อน ทำให้นวลฉวีเกิดความหึงหวง มีหลายครั้งที่เธอโดนหมออุทิศทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นแจ้งความไว้ก็มี กระทั่งสุดท้ายผู้เป็นสามีก็ลงมือจ้างวานฆ่า นวลฉวี อย่างโหดเหี้ยมแล้วให้เอาศพไปถ่วงน้ำ กระทั่งตำรวจสามารถสืบคดีและรู้ว่าผู้จ้างวานฆ่าคือ น.พ.อุทิศ ผู้เป็นสามีนั่นเอง ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังถูกจับกุม น.พ.อุทิศ ก็ถูกขังเพียงแค่ปีกว่าเท่านั้น และได้รับการอภัยโทษ แต่ต่อมา น.พ.อุทิศ ก็เสียชีวิตลง
คดี น.พ.บัณฑิต ฆ่าศยามล
คดีศยามลเกิดขึ้นเมื่อปี 2536 โดยผู้พบศพ ศยามล ลาภก่อเกียรติ ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลหัวหิน ถูกฆ่ารัดคอและแทงซ้ำโดยอำพรางศพว่าเป็นการข่มขืนและทิ้งศพไว้ในรถ โดยมีลูกสาววัย 2 ขวบ ร้องไห้กอดศพผู้เป็นแม่อยู่ทั้งคืน ขณะที่ในมือกำทิชชูคอยซับเลือดให้แม่ ซึ่งผู้ที่บงการฆ่าอย่างเลือดเย็นก็คือ น.พ.บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์ อดีตแพทย์โรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทั้ง ศยามล และ น.พ.บัณฑิต แอบลักลอบมีความสัมพันธ์จนถึงขั้นแอบจดทะเบียนสมรสกัน และอยู่กินกันจนให้กำเนิดลูกสาววัย 2 ขวบ ต่อมาทั้งคู่ได้หย่าขาดกัน โดยศยามลได้เรียกร้องเงิน 2 ล้านบาท เป็นค่าเลี้ยงดูบุตรสาว กระทั่ง น.พ.บัณฑิต ได้พบรักกับแพทย์หญิงในโรงพยาบาลหัวหินและกำลังจะแต่งงานกัน เมื่อศยามลทราบข่าวก็ไม่ค่อยพอใจและตามมาอาละวาด ทำให้ น.พ.บัณฑิต วางแผนสะสางเรื่องทุกอย่างอย่างเลือดเย็น
ค่ำคืนวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2536 น.พ.บัณฑิต โทรศัพท์ ให้ศยามลไปพบโดยมีลูกสาววัย 2 ขวบนั่งมาด้วย เมื่อเธอขับผ่านถนนเพชรเกษม มุ่งหน้า อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถปาดหน้าบังคับศยามลและลูกสาวนั่งรถไปที่ หมู่ 12 ต.ไร่มะขาม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ก่อนที่คนร้ายใช้เชือกรัดคอและใช้มีดแทงเธออย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าลูกสาว พร้อมลงมือข่มขืนและชิงทรัพย์เพื่ออำพรางคดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามสืบและจับกุมผู้ต้องหา พร้อมผู้จ้างวานฆ่าได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น น.พ.บัณฑิต นั่นเอง ทั้งนี้ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต น.พ.บัณฑิต แต่ต่อมาได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุกเพียง 40 ปี
คดีเสริม สาครราษฎร์ ฆ่าหั่นศพแฟนสาว
คดี เสริม สาครราษฎร์ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ก่อเหตุฆ่าหั่นศพแฟนสาว น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี นักศึกษาแพทย์ ปี 5 มหาวิทยาลัยมหิดล เนื่องจากโกรธที่ น.ส.เจนจิรา มีผู้ชายคนใหม่และตีตัวออกห่าง โดยเหตุเกิดเมื่อ พ.ศ. 2541 วันเกิดเหตุ เสริมได้ชักชวนแฟนสาวมาติวหนังสือที่ห้อง แต่เกิดทะเลาะกันด้วยความโมโห เสริม จึงได้ใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่ขมับซ้ายแฟนสาวจนเสียชีวิตทันที จากนั้นจึงลงมือชำแหละศพทิ้งลงชักโครกทั้งหมด เพื่อทำลายหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา เสริม สาครราษฎร์ ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ หลังได้รับอภัยโทษ โดยเจ้าตัวเผยว่า อยากจะออกไปอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากเป็นข่าวอีก
คดี น.พ.วิสุทธิ์ ฆ่า หมอผัสพร
อีกหนึ่งคดีที่น่าสลดใจ นั่นคือ คดีหมอผัสพร แพทย์หญิงโรงพยาบาลรถไฟหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหตุเกิดเมื่อ พ.ศ. 2544 แต่จากการสืบสาวราวเรื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์ถูกแล่ทิ้งลงท่อระบายน้ำ บวกกับภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม ในที่สุดก็สามารถมัดตัวคนร้ายที่แท้จริง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น น.พ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินารีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สามีของเธอ สืบเนื่องจากการฟ้องร้องเรื่องการหย่าร้างและแบ่งทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาตำรวจสามารถสืบและจับกุม น.พ.วิสุทธิ์ ฆาตกรฆ่าหมอผัสพรได้ และเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ศาลศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาให้ประหารชีวิต น.พ.วิสุทธิ์ ตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน ทนายได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ น.พ.วิสุทธิ์ และต่อมา ได้รับพระราชอภัยโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต ล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2554 น.พ.วิสุทธิ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีกครั้งเหลือโทษจำคุก 21 ปี