เหยื่อข่มขืนสุดอึ้ง ทนายของชายที่ข่มขืนเธอเผย เธอไม่ยอมหุบขาเท่ากับเธอสมยอมมีเซ็กส์
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 เว็บไซต์ไอบีไทมส์ รายงานว่า สาวผู้เป็นเหยื่อข่มขืนสุดอึ้ง ทนายของชายผู้ข่มขืนเธอกล่าวหน้าตาเฉย เธอไม่ยอมหุบขาตอนถูกข่มขืน เท่ากับสมยอม
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ที่นำมาซึ่งคำพูดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2011 ขณะที่หญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ กำลังจะเข้าไปในไนต์คลับ นายจอร์จ เจสัน พูล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัย 34 ปี ก็ได้เข้าไปหาเธอแล้วบอกว่าเขาจะพาเธอเข้าไปในไนต์คลับที่เพื่อน ๆ ของเธอสังสรรค์กันอยู่ เธอเลยเดินไปกับเขา แต่แล้วเขากลับพาเธอไปหยุดที่ตรอกแคบ ๆ ก่อนจะจูบและข่มขืนเธอ แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่ เขาก็ไม่ฟังและใช้กำลังข่มขืนเธออยู่ตรงนั้น
แต่เมื่อเรื่องถึงชั้นศาล นายคีธ เจฟเฟอรี่ ทนายของเจสัน พูล กลับบอกว่าเหยื่อสาวสมยอมเอง โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุเธอไม่ได้ต่อสู้ ไม่ได้กรีดร้อง และไม่ได้พยายามวิ่งหนีการข่มขืนเลย จริง ๆ แล้ววันนั้นเธอก็สามารถหุบขาเพื่อเลี่ยงการข่มขืนได้ แต่เธอกลับไม่ทำ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเธอสมยอมพลีกายให้กับเจสัน พูล แต่พอรู้สึกผิดกับตัวเองก็มาบอกว่านั่นเป็นการข่มขืน
คำพูดดังกล่าวทำให้ เจรัลดีน เคลลี่ อัยการของเหยื่อสาวอึ้ง และโต้กลับว่า นี่ไม่ใช่หนังไม่ใช่ละคร มันคือชีวิตจริง ตอนเกิดเหตุเธอหวาดกลัวมาก ที่เธอไม่กรีดร้องไม่วิ่งหนีใด ๆ ก็เพราะไม่อยากให้สถานการณ์มันรุนแรงเลวร้ายไปกว่านี้ แต่เธอไม่ได้สมยอมเลย
นอกจากนี้ คำพูดของคีธ เจฟเฟอรี่ ยังทำให้นักสิทธิมนุษยชนรุมประณามเขา หนึ่งในนั้นคือ นาตาลี กอสเมตต์ ผู้อำนวยการสถาบัน Rape Crisis ในเวลลิงตัน ออกมาแสดงความเห็นว่า คำพูดของเจฟเฟอรี่นั้นน่ารังเกียจมาก ปกป้องผู้กระทำผิดมากกว่าเหยื่อ ไม่เพียงแค่นั้นยังกล่าวโทษและดูหมิ่นเหยื่อด้วย
อย่างไรก็ดี เจสัน พูล ยังอยู่ระหว่างการพิพากษาว่าเขาจะมีความผิดจริงจากคดีนี้หรือไม่