เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก forbes.com
ฟอร์บส์ มีเดีย ประกาศขายกิจการ หลังจากที่สื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาท และการขาดหายไปของเงินทุนหลังจากที่นาย สตีฟ ฟอร์บส์ นำเงินไปลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ รายงานว่า ฟอร์บส์ มีเดีย ผู้ผลิตนิตยสารฟอร์บส์ และกำลังขยายกิจการไปยังสื่อออนไลน์และการโฆษณา ได้ประกาศขายกิจการเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทางบริษัทส่งอีเมลเพื่อแจ้งพนักงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในอีเมลดังกล่าว ได้ระบุชื่อของนายไมเคิล เอส. เพอร์ลิส ประธานบริหารของฟอร์บส์ มีเดีย ผู้กุมกิจการที่มีอายุยาวนานกว่า 96 ปี ได้เขียนเอาไว้ว่า เราได้รับความสนใจจากนักลงทุน ที่ต้องการเข้าซื้อกิจการของ ฟอร์บส์ มีเดีย ซึ่งจากสถานการณ์ของฟอรบส์ในขณะนี้ ทำให้เราเดินมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ และเรากำลังเตรียมตัวที่จะขายกิจการของ ฟอร์บส์ มีเดีย แล้ว
นอกจากนี้ นายเพอร์ลิส ยังกล่าวกับลูกจ้างว่า ทางฟอร์บส์เองได้ว่าจ้าง ดอยชต์แบงค์ ( Deutsche Bank) เพื่อเป็นตัวแทนในการขายบริษัทและทางบริษัทก็หวังว่า จะมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า ทางฟอร์บส์ มีเดีย คาดหวังว่าจะขายกิจการได้ถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.26 หมื่นล้านบาท) ซึ่งฟอร์บส์เองเป็นหนึ่งในสื่อที่มีอิทธิพลในวงการสื่อสารมวลชนด้านธุรกิจ ทางฟอร์บส์ได้ว่าจ้างนายเพอร์ลิส ให้เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม 2010 เพื่อช่วยปรับปรุงโครงสร้างของบริษัท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นิตยสารต้องพึ่งพาเงินจากนิตยสารเพียงอย่างเดียว อีกทั้งเขายังต้องเข้ามากอบกู้กิจการ หลังจากที่นายสตีฟ ฟอร์บส์ ได้ใช้เงินของครอบครัวจำนวนมาก ไปกับการหาเสียงเพื่อลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีถึง 2 ครั้ง และการพยายามเปลี่ยนฟอร์บส์ให้เข้าสู่ตลาดสื่อสารออนไลน์มากขึ้น จนทำให้กิจการพังในที่สุด
นิตยสารฟอร์บส์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1917 โดยนาย บี.ซี.ฟอร์บส์ คอลัมน์นิสต์ด้านธุรกิจ และตอนนี้ ทางนิตยสารเองก็กำลังรุกทำตลาดในด้านสื่อดิจิตอลมากขึ้น เพื่อมาทดแทนรายได้จากโฆษณาสิ่งพิมพ์ที่ลดลง ซึ่งโฆษณาที่ลดลงในสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ นั้น ถือเป็นปัญหาที่เหล่าสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ต้องเผชิญกันถ้วนหน้า
สำหรับความพยายามที่จะขายโฆษณาออนไลน์นั้น ฟอร์บส์ได้ว่าจ้างบริษัท True/Slant ให้มาเขียนโปรแกรมเพื่อให้เครือข่ายนักเขียนกว่า 1,200 คน สามารถเขียนเรื่องราวลงบนเว็บไซต์ของฟอร์บส์ได้ อันจะถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์นิตยสารไปด้วยอีกแรง