ชมฝนดาวตกลีโอนิดส์คืนวันลอยกระทง

 

 

 

ชมฝนดาวตกลีโอนิดส์คืนวันลอยกระทง

 

 

นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2556 จะเกิดปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกลีโอนิดส์” สังเกตได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 17 พฤศจิกายน ต่อเนื่องไปถึงเช้ามืดของวันที่ 18 พฤศจิกายน ช่วงเวลาที่คาดการณ์ว่าสามารถเห็นฝนดาวตกลีโอนิดส์มากที่สุดคือ เวลา 03.00-04.00 น. ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กลุ่มดาวสิงโตซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตก

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ดวงจันทร์ไม่เป็นใจให้ชมฝนดาวตกลีโอนิดส์มากนัก เนื่องจากเป็นช่วงดวงจันทร์เต็มดวงพอดี แสงสว่างของดวงจันทร์เต็มดวงเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการสังเกตการณ์ฝนดาวตก ทั้งนี้ นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจเห็นดาวตกประมาณ 10-20 ดวงต่อชั่วโมง

นอกจากฝนดาวตกลีโอนิดส์ที่จะได้ชมกันในเดือนพฤศจิกายนแล้ว ในเดือนธันวาคมยังมีฝนดาวตกเจมินิดส์หรือฝนดาวตกคนคู่ ให้ชมส่งท้ายปี 2556 ด้วย โดยจะเกิดขึ้นมากที่สุดในวันที่ 13-14 ธันวาคม สามารถสังเกตได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเช้ามืดของวันที่ 14 ธันวาคม และในปีนี้ดวงจันทร์ก็ไม่เป็นใจให้ชมฝนดาวตกเจมินิดส์อีกเช่นกัน เนื่องจากเป็นช่วงดวงจันทร์ข้างขึ้น 11-12 ค่ำ แสงสว่างของดวงจันทร์นับเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเฝ้ารอชมฝนดาวตก

“แม้ว่าในปี 2556 สภาพท้องฟ้าไม่เอื้ออำนวยต่อการชมฝนดาวตกลีโอนิดส์และฝนดาวตกเจมินิดส์ แต่ในปีนี้นับว่าเป็นปีแห่งดาวหาง มีดาวหางสว่างหลายดวงแวะเวียนเข้ามาในระบบสุริยะชั้นในหลายดวง เช่น ดาวหางแพนสตาร์ ดาวหางเลมมอน ดาวหางเองเค ดาวหางลิเนียร์ ดาวหางเลิฟจอย และดาวหางไอซอน สำหรับดาวหางไอซอนนั้น เป็นที่จับตามองของนักดาราศาสตร์ทั่วโลกเนื่องจากนักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจมีความสว่างมากจนสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ดาวหางไอซอนจะโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด คาดว่าช่วงที่เหมาะในการสังเกตการณ์ ได้แก่วันที่ 15-25 พฤศจิกายน และวันที่ 8-15 ธันวาคม จึงต้องรอลุ้นกันว่า ดาวหางไอซอนจะรอดพ้นจากพลังทำลายล้างของดวงอาทิตย์โผล่มาอวดโฉมให้ชาวโลกได้ชมกันหรือไม่”

สำหรับฝนดาวตกลีโอนิดส์เกิดจากสายธารเศษฝุ่นของดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P Tempel-Tuttle) ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวหางตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวหางเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า ทิศทางวงโคจรของฝนดาวตกลีโอนิดส์สวนทางกับทิศทางวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ความเร็วของเม็ดฝุ่นที่เข้ามาเสียดสีกับบรรยากาศโลกมีความเร็วค่อนข้างมาก โดยมีความเร็วสูงถึง 71 กม./วินาที ฝนดาวตกลีโอนิดส์เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งฝนดาวตก”

ทั้งนี้ การชมฝนดาวตกควรเป็นสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน และให้นอนรอชมเนื่องจากช่วงที่เกิดฝนดาวตกจุดศูนย์กลางจะอยู่เหนือท้องฟ้ากลางศีรษะพอดี ส่วนการบันทึกภาพฝนดาวตกนั้นไม่อาจบอกได้แน่ชัดว่าควรตั้งกล้องทางทิศใด ต้องอาศัยการเดาหรือเปิดหน้ากล้องเพื่อรอให้ดาวตกวิ่งผ่านหน้ากล้อง เนื่องจากฝนดาวตกลีโอนิดส์มีอัตราเร็วสูงมากและกระจายทั่วท้องฟ้า

Credit: http://news.tlcthai.com/
17 พ.ย. 56 เวลา 10:50 2,690 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...