(14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra เกี่ยวกับกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกเพื่อไปนำการชุมนุม ภายใต้หัวข้อ "อุปทานหมู่ ของ ส.ส.ปชป. ทั้ง 9"
นายพานทองแท้ โพสต์ข้อความและตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เอาไว้ว่า
"อุปทานหมู่ ของ ส.ส.ปชป.ทั้ง 9"
ซึ่งลาออกจาก ส.ส.เพื่อมานำม็อบ สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจ ให้กับพี่น้องประชาชนอยู่ในเวลานี้ ลึกซึ้งกว่าที่คิดครับ..!!
ในเมื่อโพลล์ก็ชี้ชัดว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศ เห็นว่าควรยุติการชุมนุมได้แล้วโดย...
1. คนไทย 70% เห็นว่าควรยุติการชุมนุม เนื่องจากสภาฯได้ถอน พรบ.สุดซอยออกไปแล้ว
2. คนไทย 85% เห็นว่าควรยุติการชุมนุม เนื่องจากศาลโลกได้ตัดสินอยู่ในเกณฑ์ที่ คนไทยส่วนใหญ่พึงพอใจแล้ว
คนที่มาชุมนุมด้วยใจบริสุทธิ์ ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความสบายใจ คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชมในการทำงานของ "ทีมไทยแลนด์" ที่มี "Man of the Match คือ ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย" ที่ต่อสู้ใน"ยกสุดท้าย" จนเต็มที่แบบชนะใจคนดูทั้งประเทศ
(หลังจาก"ยกแรกเมื่อ พ.ศ. 2505" ที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โชว์ฝีมือไปว่าความ แทนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งศาลโลกตัดสินออกมาให้ "ตัวปราสาทพระวิหาร เป็นของเขมร และให้ประเทศไทยคืนโบราณวัตถุ ที่เอาออกมาจากปราสาทให้เขมร" จนเศร้าโศกเสียใจกันทั้งประเทศมาแล้ว)
การตัดสินครั้งนี้ ศาลโลกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิมได้ครับ ทำได้แต่เพียงตีความคำพิพากษาให้ชัดเจนขึ้นว่า "ไม่ยกพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ให้เขมรตามที่ร้องขอฯ" คนไทยจึงไชโยโห่ร้อง กันทั่วประเทศ แต่ สส.ของพรรคประชาธิปัตย์กลับไม่พอใจ ลาออกมานำม็อบต่อถึง9คน ซึ่งทำให้ประเทศชาติต้องเสียเงินในการเลือกตั้งซ่อมร่วม 40 ล้านบาท สำหรับ สส.ทั้ง 8 เขต..!!
ท่านที่ได้ดูการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ ระหว่างที่ ส.ส.ศิริโชค ของพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะ"สอนหนังสือสังฆราช"ด้วยการดีเบทกับท่านทูตวีรชัยฯ จนโดนตอกแบบสุภาพ หน้าหงาย แตกยับกลับมา คงจะแยกแยะได้ชัดเจนว่า คนที่ตั้งใจทำวิกฤติ ให้เป็นโอกาสของประเทศชาตินั้นเขาทำอย่างไร และคนที่ต้องการทำวิกฤติของประเทศ ให้เป็นประโยชน์ กับพรรคพวกตัวเองนั้น ทำตัวแตกต่างกันอย่างไร
ผมได้ทบทวนข่าวเมื่อวันที่11พย. ที่ศาลโลกอ่านคำวินิจฉัยฯ มีข่าวที่เกี่ยวกับตระกูล "เทือกสุบรรณ" 2 ข่าวด้วยกันครับ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับเงื่อนงำของการลาออกจาก สส.แบบอุปทานหมู่ 9คนนี้หรือไม่ ข่าวแรกอย่างที่เราทราบกัน ส.ส.สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. และในวันเดียวกันก็ยังมีอีกข่าว ที่คนไม่ค่อยทราบกันก็คือ ศาลอาญาได้โอนคดี "รุกที่เขาแพง" ที่มี "แทน เทือกสุบรรณ" โนมินี...เอ๊ยย..!! ลูกชายของนายสุเทพฯ เป็นจำเลยในการ"ฮุบที่หลวง"ไปพิจารณาที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ครับ
ประเด็นคือ จะอุปทานหมู่อะไรก็ว่ากันไปครับ แต่ถ้าเป็นการใช้วิกฤติของประเทศ เพื่อเป็นข้ออ้างในการลาออกจาก สส. และในที่สุดก็โอนมรดกในการใช้ "เอกสิทธิ ส.ส." เพื่อเลื่อนการพิจารณาคดี ให้กับลูกชายตัวเองลง ส.ส.แทนนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชน รับไม่ได้อย่างแน่นอนครับ
พรรคประชาธิปัตย์เคยตีกิน ในเรื่องที่ "แซม ยุรนันท์" ลาออกจาก ส.ส.ปาตี้ลิสต์ มาลง ส.ส.เขตมาแล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งๆที่การลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิส ไม่ต้องใช้งบประมาณในการเลือกตั้งใหม่แม้แต่บาทเดียว มาในครั้งนี้ ปชป.ลาออกถึง 9 คน ต้องเลือกตั้งใหม่ถึง 8 เขต ต้องใช้งบประมาณหลายสิบล้านบาท ถ้าเหตุผลในการออกมานำม็อบ สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนแล้วละก็ บอกตรงๆว่าอธิบายกันเหนื่อยครับ
ฝากคำถามถึง 2 เซียนแห่งค่ายปชป. ที่กำลังจุดไฟสุมขอน อยู่ใต้ถุนบ้านที่ชื่อประเทศไทย เพื่อจับหนูตัวหนึ่ง โดยไม่คำนึงว่าบ้านหลังนี้ จะเสียหายจากการวางเพลิงหรือไม่ ว่า....
1. คนที่จะลงเลือกตั้งซ่อม สส.แทนคนที่ลาออกนั้นชื่อ "(ว่าที่ ส.ส.)แทน เทือกสุบรรณ" จำเลยที่กำลังจะต้องไปขึ้นศาลในคดี "รุกที่เขาแพง" ใช่หรือไม่
2. ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมร่วม 40 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์จะปัดความรับผิดชอบหรือไม่
3. หาก อดีต ส.ส.ปชป.ทั้ง9คน ที่ลาออกมานำม็อบกระทำผิดพลาดดังเช่นกรณี "จำลองพาคนไปตาย" ที่ท่านเคยกล่าวหาผู้อื่นไว้ในอดีต พรรคประชาธิปัตย์จะปัดความรับผิดชอบหรือไม่
ถ้าตอบ 3 ข้อนี้ไม่ได้ ผมขอแนะนำว่า...
เปลี่ยนจาก "อุปทานหมู่" เพื่อมานำม๊อบ ที่ขัดต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน มาเป็น....
"อุปสมบทหมู่" เพื่ออุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับเรื่องต่างๆที่ผ่านมา เช่น ปรส., สปก4-01, เขาแพง, สวาปาล์ม, โรงพักเข้มแข็ง, ปลากระป๋องเน่า, นมโรงเรียน ฯลฯ อะไรเทือกนี้
จะได้ประโยชน์มากกว่ามั๊ยครับอา...??