เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 13 พ.ย. ระหว่างการอภิปรายของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงแผนที่ถึงปริมาณพื้นที่ที่ไทยต้องเสียดินแดนจากคำพิพากษาศาลโลก จากแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนของกัมพูชา และเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องนี้ หลังนักวิชาการส่วนตัวของตนประเมินได้ภายใน 48 ชั่วโมงว่า พื้นที่ที่เสียดินแดนว่าอยู่ระหว่าง 0.3 –2 ตารางกิโลเมตร
ในจังหวะนี้ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํากรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ หัวหน้าทีมต่อสู้คดีเขาพระวิหาร ลุกขึ้นชี้แจงทันทีว่า อยากขอชื่นชมนายศิริโชค โสภา และผู้เชี่ยวชาญของท่านที่ระบุว่าใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมงกว่าๆ สรุปได้ว่าในวรรคที่ 98 หน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญของเราที่เก่งที่สุดในโลกซึ่งอยู่ในประเทศอังกฤษ ณ ตอนนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ (ยังเกาศีรษะอยู่) ขณะที่ตนและคณะที่ปรึกษาทั้งหมดก็ยังไม่กล้าให้ข้อมูล เพราะเราต้องทำงานละเอียด อะไรที่ไม่แน่ใจจะไม่มีวันให้ข้อมูลต่อประชาชนและรัฐสภา
แต่ตนขอแย้งว่า สิ่งที่นายศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญของท่านพูดมานั้น ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นความเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ความเห็นนี้มีปัญหาอย่างยิ่งเพราะอยู่บนสมมติฐานที่ผิด ผิดตั้งแต่ก้าวออกจากบ้าน เส้นที่นายศิริโชคพูดถึงและยอมรับคือเส้น 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งเป็นเส้นที่กัมพูชาถ่ายทอดตามอำเภอใจ ที่ทีมงานเราพยายามอย่างหนักเลือดตาแทบกระเด็นที่จะทำลายมาตลอด แล้วเราทำสำเร็จแล้ว เส้นนี้ตกไปแล้ว เพราะศาลได้ระบุไว้ในคำพิพากษาตามวรรค 99 แล้วว่า เส้นที่ทำขึ้นฝ่ายเดียว ใช้ไม่ได้
“แต่สิ่งที่คุณศิริโชคทำคืออะไร คือการให้สถานะแก่เส้นที่กัมพูชาทำขึ้นตามอำเภอใจ ทำร้ายผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งที่พวกผมทุ่มเทใช้เวลาหลายปีพยายามทำลาย และทำสำเร็จแล้ว แต่บัดนี้ สมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรตินำเส้นนี้กลับเข้ามา ถ้าหากกัมพูชาดูทีวีอยู่ขณะนี้ และผมเชื่อว่าเขานั่งดู เขาจะนั่งยิ้ม และการเจรจาในอนาคตของเราจะยากขึ้นอีก เพราะเขาจะพูดว่า อ่ะเส้นนี้หรือทำไมจะใช้ไม่ได้ สมาชิกสภาของไทย 1 ท่านเอามารับรอง เอามาฉาย ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ งานจะยากขึ้นเลยครับ จากการกระทำของนายศิริโชค
ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดี ผมขอสงวนสิทธิไว้ตรงนี้แทนประชาชนไทย และประเทศไทย ว่า เป็นเพียงสมาชิกสภา 1 ท่านในรัฐสภานี้เท่านั้นที่พูด ไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะคนที่จะทำให้มีผลผูกพันได้ คือหัวหน้ารัฐบาล และรมว.การต่างประเทศเท่านั้น คุณศิริโชคไม่ใช่ การที่คุณศิริโชคไปรับการถ่ายทอดเส้นของกัมพูชา ไม่ใช่การยอมรับของประเทศไทย
จึงขอให้ที่ประชุมแห่งนี้บันทึกไว้ว่าจะไม่ผูกพันประเทศไทย และแม้จะไม่ผูกพันได้โดยตัวท่าน แต่ท่านได้ทำให้การเจรจาของไทยในอนาคตนั้นยากขึ้นแน่นอน...และเป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างใหญ่หลวง พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ผมบอกท่านในวันแรกว่ามันไปแล้ว อาจจะกลับมาได้อีก เพราะเส้นที่นำมาแสดงนี้ ผมไม่คิดว่าคุณศิริโชคจะตระหนักในสิ่งนี้ ถ้าท่านไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ขอให้บันทึกไว้ตามนี้” นายวีรชัยกล่าว
ด้านนายศิริโชคใช้สิทธิ์พาดพิงลุกขึ้นกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจมากที่นายวีรชัยมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างนั้น สิ่งที่ตนบอกนั้น คือเส้นแผนที่นี่โยกไปโยกมาได้ สิ่งที่เราต้องทำคือไปทำให้มันนิ่ง ตนไม่ได้บอกว่าสิ่งที่อยู่บนแผนที่เป็นของกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาเส้นนั้นไว้ตรงไหน จึงอยากเรียนนายวีรชัยว่า ตนตั้งใจทำงานเพื่อชาติไม่แพ้ท่าน ภาพแผนที่ที่เอามา ไม่ใช่เส้นที่จะทำลายชาติได้
(ช่วงนายวีรชัยพูดเริ่มในนาทีที่ 26)
สำหรับการประชุมดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 09.30 น. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 17 (สมัยสามัญทั่วไป) ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ให้คณะทำงานในคดีปราสาทเขาพระวิหารได้เข้ารายงาน และวิเคราะห์ผลการตัดสินของศาลโลกต่อรัฐสภา และให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน เนื่องจากขณะนี้ยังมีการตีความสับสนในผลคำตัดสินของศาลโลก