ฮา กันไปทั่วโลกสำหรับกรณีน.ส.พ.ฉบับหนึ่งในไทย ตีข่าวว่ามี "ผีแอร์โฮสเตส" ช่วยอพยพผู้โดยสารจากเครื่องบินสายการบินไทย ที่ไถลนอกรันเวย์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
พร้อมรายงานว่าอดีตผู้อำนวยการบางส่วนยืนยันว่าอาถรรพ์มีจริงในสนามบินสุวรรณภูมิ
เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไปในเว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ (รวมทั้งเว็บไซต์ "ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ" เองด้วย) ชาว ต่างชาติจำนวนมากพากันแสดงความเห็นว่า น่าเหลือเชื่อที่ยุคสมัยนี้ยังมีคนเชื่อว่าผีสางนางไม้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ต่างๆ และวิจารณ์ว่าควรเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง ดีกว่าเอาแต่โทษเรื่องเหนือธรรมชาติ
แต่ สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับรายงานเรื่อง "ผีแอร์โฮสเตส" ดังกล่าวคือ คำยืนยันที่ว่ามีคนเห็นผีสาวผมยาวห่มสไบอยู่ในเครื่องบิน ที่ น่าสนใจคือ เรื่องผีเหล่านี้มักอ้างว่า ผีในเรื่องเป็นวิญญาณโบราณ แต่ในความจริงแล้ว เรื่องผีแทบทุกเรื่องอธิบายลักษณะของหญิงไทยสมัยโบราณได้ผิดเพี้ยนทั้งสิ้น
เนื่องจากหญิงไทยสมัยก่อนมักนิยมไว้ผม สั้น คือยาวกว่าผู้ชายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเพิ่งมานิยมไว้ผมยาวในสมัยหลังๆ นี้เอง โดยเชื่อว่าสมัยรัชกาลที่ 4-5 น่าจะเป็นช่วงแรกๆ ที่การไว้ผมยาวเริ่มแพร่หลายอย่างมาก
ยังไม่นับประเด็นการแต่งตัว ที่มีมากกว่าแค่การห่มสไบ (เราไม่ค่อยได้ยินเรื่องผีที่ห่มตะเบงมาน ผ้าแถบ ผ้าซิ่น ฯลฯ) นอกจากนี้ยังมีประเด็นภาษา ซึ่งเชื่อได้ว่าผีสมัยอยุธยาคงพูดคุยกับเราลำบาก กว่าจะให้หวยกันได้ก็คงเหนื่อย
น่าสนใจ ว่า ผีที่เราพบเห็นในเรื่องผี มีลักษณะแทบไม่ต่างจากภาพยนตร์หรือละครย้อนยุค ซึ่งก็เป็นจินตนาการเกี่ยวกับผู้คนสมัยก่อน จากมุมมองหรือค่านิยมของยุคปัจจุบัน
คล้ายกับ กรณี "แม่นาก-พี่มาก" ที่น่าคิดอย่างยิ่งว่าในสมัยโบราณนั้น ครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่ล้วนแต่อาศัยกันเป็นครัวเรือนใหญ่ มีญาติฝั่งสามีหรือไม่ก็ภรรยาอยู่ด้วย
แต่ชีวิตสมรสของ แม่นาก-พี่มาก กลับอยู่กันแค่ 2 คน เป็น "nuclear family" แบบสังคมชนชั้นกลางสมัยใหม่
ดังนั้น เราจึงสรุปได้ว่า เรื่องผีสางทั้งหลายนั้น ก็เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ด้วยกันเอง เหมือนภาพยนตร์ นิยาย หรือละคร ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด
หักมุมพิศวง ด๊อกเตอร์ บีเกิ้ล khaosod.sci@gmail.com