4 จอร้าย ทำลายสุขภาพตา

วิถีชีวิตของคนยุคใหม่นับวันต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นยุค Gen S (Generation of Screen) 

ซึ่งเป็นยุคโลกดิจิตอลที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ท่ามกลาง “จอ” รอบตัว โดยเฉพาะ 4 จอที่ว่าได้แก่ จอคอมพิวเตอร์ จอแท็บเล็ต จอมือถือ และจอโทรทัศน์ นับวันเรายิ่งถูกเทคโนโลยีเหล่านี้ผลักดันให้ใช้สายตามากขึ้นและนานขึ้น โดยไม่รู้เลยว่ากำลังทำร้ายสุขภาพตาแบบไม่รู้ตัว

ข้อมูลจากการสำรวจสุขภาพสายตาของคนไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2550 ระบุว่า คนไทยไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคน มีสายตาผิดปกติ 

สาเหตุหลักมาจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อเป็นเวลานาน และยังพบว่าใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว จึงทำให้เกิดอาการเมื่อยตา ตาแห้ง เคืองตา แสบตา แพ้แสง ตาพร่า ปวดตา ปวดศีรษะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาสายตา เช่น การทำงานกลางแจ้งนานๆ การอ่านหนังสือในที่มีแสงน้อย การสูบบุหรี่ เป็นต้น

ดังนั้น ในแต่ละวันเราจึงควรหยุดพักและละสายตาจากจอต่างๆ เป็นระยะๆ เพื่อผ่อนคลายสายตา นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาและถนอมดวงตานั่นก็คือ 

สารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในผักและผลไม้ต่างๆ ซึ่งมีวิตามินเอ ซี อี เบต้า-แคโรทีน ซีแซนทิน สังกะสี และไบโอฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูล “เบอร์รี่” ไม่ว่าจะเป็นบิลเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เอลเดอร์เบอร์รี่ บอนเซนเบอร์รี่ ฮัคเคิลเบอร์รี่ เป็นต้น ทั้งนี้มีผลการวิจัยพบว่า สารแอนโธไซยานิน ในบิลเบอร์รี่ซึ่งเป็นสารไบโอฟลาโวนอยส์ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สูง 

ช่วยป้องกันเส้นเลือดฝอยจากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย และยังช่วยป้องกันอาการอ่อนล้าจากการคร่ำเคร่งใช้สายตา ช่วยให้สายตาทำงานดีขึ้นในที่มืดหรือที่มีแสงน้อย เพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือดฝอย จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนของเลือดในดวงตา 

ส่วนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อื่นๆ ก็พบว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แบล็คเคอร์แรนต์ ช่วยให้ตารับภาพในเวลากลางคืนได้ดี แครนเบอร์รี่ ช่วยบำรุงสุขภาพตา โช้คเบอร์รี่ ช่วยการไหลเวียนของเลือดในตาให้ดีขึ้นอาซาอิเบอร์รี่ ช่วยปกป้องการเสื่อมของเลนส์ตาและจอประสาทตา สตรอเบอร์รี่ ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทที่ถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งบริเวณจอประสาทตามีเซลล์ประสาทสำหรับการรับภาพอยู่มาก 

ดังนั้น การเลือกรับประทานผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ หรือในรูปเบอร์รี่สกัดเข้มข้น จึงเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพดวงตา แต่ต้องมีปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสม และอย่ารอที่จะดูแลและถนอมสุขภาพดวงตาของคุณ เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของดวงตาที่สดใสไปได้นานๆ

Credit: http://variety.teenee.com/foodforbrain/57555.html
13 พ.ย. 56 เวลา 08:19 876 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...