จากกรณี ‘เอ็กซ์’ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกคนร้ายชาย 2 คนสวมหมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์ ประกบรถเก๋งสปอร์ต ปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ชส 2223 กรุงเทพมหานคร แล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายจักรกฤษณ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหงขาเข้า แขวง-เขตมีนบุรี ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.เสรีรักษ์ ช่วงค่ำวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ที่ความขัดแย้งภายในครอบครัว ล่าสุดชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. สามารถจับกุมนายจิรศักดิ์ หรือ จี กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี มือปืนที่ก่อเหตุ และน.ส.วรพรรณภูรี หรือ แหม่ม มนตรีอารีกุล อายุ 46 ปี ผู้รับงานจัดหามือปืน ไว้ได้ ก่อนให้การซัดทอดว่า รับงานมาจากคนใกล้ชิดผู้ตาย ในราคา 1.2 ล้านบาท กระทั่ง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยาผู้ตาย และนางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 72 ปี มารดาของหมอนิ่ม ถูกออกหมายจับ ก่อนติดต่อขอเข้าพบนางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อประสานและมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสันติ หรือ ทนายอี๊ด ทองเสม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 2 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคนรับงานจากน.ส.วรพรรณภูรี หรือ แหม่ม พร้อมพวกประมาณ 5-6 คน เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.น.3 ภายหลังมีหมายจับข้อหาร่วมกันใช้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า คดีนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลังหมอนิ่มและแม่หมอนิ่ม ได้เข้ามอบตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยให้ทาง พล.ต.ต.ชยุต ซึ่งดูแลงานสอบสวนดูแลสำนวนคดีอย่างใกล้ชิดแล้ว วันนี้นายสันติ หรือ ทนายอี๊ด ที่ทาง น.ส.วรพรรณภูรี หรือแหม่ม ให้การว่าเป็นคนดำเนินการจัดหามือปืน และคนขี่รถจักรยานยนต์ ได้ติดต่อมอบตัว ส่วนการให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา
นายสันติ กล่าวว่า ตนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้อะไรเลย ส่วนเจ๊แหม่มนั้น ตนรู้จักในฐานะทนายความที่ว่าความคดีหนีสินให้ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลบหนี แต่อยู่ระหว่างรอติดต่อมอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนนายจี มือปืนและนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ขี่รถจยย.นั้น ตนเคยเป็นทนายให้นายธวัชชัย แต่จำคดีไม่ได้
ถามว่ารู้จักน.ส.แหม่มและสนิทสนมหรือไม่ เพราะน.ส.แหม่มบอกว่านายสันติเป็นคนจัดหามือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์ ที่รับเงินไป 6 แสนบาท นายสันติกล่าวว่า รู้จักในฐานะทนาย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบ ไม่รู้ในเรื่องนี้จริงๆ ส่วนนายจี นั้น ตนรู้จักกับทางภรรยาของเขา เคยไปกินเหล้างานรุ่นพี่ ส่วนนายจีก็คุยกันเรื่องทั่วไปเท่านั้น
เมื่อถามว่าเคยเจอนายจี มือปืนกี่ครั้ง นายสันติกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเขาเป็นมือปืน รู้จักแต่ภรรยาของเขา โดยภรรยาของเขาเคยโทรหาตนปรึกษาว่าแฟนของเขาหาย จะไปแจ้งความจะเอาอย่างไรดีในฐานะที่ตนเป็นทนาย ตนก็บอกให้รอก่อน โดยหายไปวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าวันที่ 19 ต.ค. มีการติดต่อกับน.ส.แหม่มใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ก็โทรคุยกันในเรื่องคดีความ เพราะตนคุยกับลูกหนี้ของเขา และมีการพุดคุยเรื่องโครงสร้างหนี้ โดยคุยกันตั้งแต่เช้าถึงเย็น ถามว่ากล้อง ร.พ.เสรีรักษ์ จับภาพได้ว่าเจอแม่หมอนิ่มที่นั่น นายสันติกล่าวว่า โรงพยาบาลนี้ตนยังไม่รู้ว่าอยู่ไหน ขอยืนยันว่าไม่เคยไป ไม่เคยไปพบแม่หมอนิ่ม
“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ผมเองยังไม่รู้จักเอ็กซ์เลย ผมไม่เคยพบใคร ไม่เคยเจอญาติพี่น้องผู้ตาย ไม่เคยพบเลย” นายสันติกล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้จะให้การอย่างไรเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ยืนยันว่าเรามีหลักฐานชัดเจน ส่วนที่การติดต่อขอมอบตัวพฤติกรรมไปกันเป็นฝูง ทำตัวเป็นเจ้าพ่อ ทางตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เพราะหากให้ไปประกันตัวก็จะข่มขู่พยานอีก ขนาดมาหาตนยังข่มขู่ตนเลย ถามว่าข่มขู่ยังไง พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ก็มาเป็นฝูง เพราะฉะนั้นตนจะคัดค้านการประกันตัว ส่วนศาลจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ พฤติกรรมไม่เหมาะเดียวจะไปข่มขู่พยาน ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ด้านนายสันติกล่าวว่า ที่มาเป็นทนายทั้งนั้น เป็นทนายความที่ออฟฟิศตน เพราะมาเพื่อเตรียมในเรื่องการยื่นขอประกันตัวเท่านั้น ไม่มีอะไร
ขณะที่ พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี สอบปากคำ ส่วนที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอย่างไรนั้นก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ทางตำรวจมีพยาน หลักฐานอยู่แล้วมั่นใจอยู่แล้ว ส่วนการสรุปสำนวนนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เรื่องกล้อง ทางตำรวจมีเวลา 84 วัน ตามข้อกำหนดของกฎหมายก็จะเร่งทำสวนให้รัดกุมและเสร็จสิ้นเร็วที่สุด
ด้านนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดานายจักรกฤษณ์ ซึ่งมาดูการแถลงข่าวด้วยกล่าวว่า สำหรับเรื่องคดีนั้น สวรรค์อยู่ในออก นรกอยู่ใจใจ ใครทำไรได้อย่างนั้นเป็นเรื่องของเวรกรรม ครอบครัวคงมองหน้ากันไม่ติด ส่วนที่ฝ่ายหมอนิ่มบอกว่าตนไม่เคยซื้ออะไรให้หลานกินเลย ก็ไม่เป็นความจริง ตนก็เคยซื้อขนมปังหมูหยองให้หลานกินหมดไปหลายพัน แต่ตนก็ไม่ได้มีรายได้อะไรมากมายที่จะดูแลหลานได้มากมายนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงเสร็จนายมานพ ได้ไปที่ห้องรักษาคนไข้ ก่อนให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทำการรักษาหลังจากมีอาการลิ้นแข็ง ไมเกรน และขาไม่ค่อยมีแรง โดยใช้วิธีรักษาทางกระบอกไม้ไผ่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตรวจสอบมีอาการลิ้นแข็งเป็นฝ้า ไมเกรน และขาอ่อนแรง วันนี้หลังจากรักษาไปเชื่อว่าจะดีขึ้น คาดว่ามารักษาประมาณ 5 ครั้งก็จะเห็นผลได้ชัดเจน เพราะรักษาโดยกระตุ้นสมองให้เลือดหมุนไหลเวียนดีขึ้นแล้ว