ห้างยักษ์จัดแคมเปญสู้ม็อบ 'ประชาชนตื่น'ซื้อของกักตุน (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            ห้างจัดหนักแคมเปญสู้ม็อบปลายปี ประชาชนเริ่มตื่นตระหนกทยอยซื้อสินค้ากักตุน เน้นอาหารสำเร็จ-น้ำมันพืช หวั่นการเมืองแรงเหมือนปี 2553

            วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2556) นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร ษริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองและการชุมนุมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคมากนัก โดยในส่วนของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังคงทำการตลาดต่าง ๆ ตามปกติ โดยเฉพาะแคมเปญพิเศษฉลองเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง

            นอกจากนี้ ในส่วนของห้างฯ ก็ได้ทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความสนใจและกำลังซื้อของลูกค้า พร้อมกันนี้ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน ทุกชิ้น ทั้งห้างเดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตทุกสถาบันการเงิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2556 - 16 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งแคมเปญดังกล่าวถือเป็นแคมเปญที่จัดนานที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป เคยทำการตลาดมา โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีรายได้ตรงตามเป้าหมายที่ 5 หมื่นล้านบาท โต 5-6% จากปีก่อน

            ด้าน นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น  กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ขณะนี้ยอมรับว่าปรับตัวลดลง เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการชุมนุมต้านนิรโทษกรรม แต่หลังจากทุกอย่างจบเชื่อว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดกำลังซื้อของผู้บริโภคยังเติบโตดี สังเกตได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ภาพรวมสาขาในกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตเพียง 6-7% เท่านั้น ส่งผลให้บริษัทต้องออกมาทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับพันธมิตรมากขึ้น สำหรับงบที่ใช้ในช่วง 2 เดือนสุดท้าย โดยเตรียมไว้ที่ 150 ล้านบาท 

            ด้าน นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนและผู้ประกอบการเริ่มทยอยซื้อสินค้ากักตุนไว้จำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทอาหาร เนื่องจากหลายรายกังวลว่า สถานการณ์ทางการเมืองอาจมีความรุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ในปี 2553 ที่นำไปสู่การประกาศกฎอัยการศึก จนทำให้คนในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ ๆ ตื่นตระหนกแย่งซื้ออาหารในซูเปอร์มาเก็ตมาเก็บไว้จำนวนมาก

            "สอดคล้องกับผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมพบว่าการบริโภคและการซื้อสินค้าของประชาชนจะมีเพิ่มขึ้นถึง 22.5% แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าปริมาณบริโภคที่ซื้อสินค้าในระดับน้อยลงหรือเท่าเดิม แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าเริ่มมีการซื้อสินค้าตุนไว้บ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อาศัยในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ที่มีการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกันมาก ๆ" นายวชิรกล่าว