อาหารชวนอร่อย..ที่ควรหลีกเลี่ยง (ไทยโพสต์)

นักโภชนาการกำลังแนะนำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยสารพิษหรือสารเคมี และเปลี่ยนไปกินอาหารที่มีสารพิษน้อยกว่า และบำรุงสุขภาพแทน การกินอาหาร "สะอาด" หมายถึงการเลือกกินผลไม้ ผัก และเนื้อที่ผ่านกระบวนการน้อยที่สุด ซึ่งส่วนมากอาหารเหล่านี้จะปลอดสารพิษและแทบไม่มีสารเติมแต่ง

แต่ปัจจุบัน ในบางกรณี วิธีการของผู้ผลิตอาหารนั้นทั้งไม่สะอาดและไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลก็คือมันก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของเรา และนี่คืออาหาร 7 อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เสนอว่าคุณ ๆ ควรจะหลีกเลี่ยง แม้จะไม่ถึงกับเป็น "อาหารต้องห้าม" ก็ตาม

มะเขือเทศกระป๋อง 

นักวิทยาต่อมไร้ท่อเปิดเผยว่า ยางเรซินที่ใช้บุภายในกระป๋องดีบุกนั้นมีสารบิสฟีนอล-เอ ซึ่งเป็นเอสโตรเจนสังเคราะห์ที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคภัยต่าง ๆ เช่น ปัญหาด้านการสืบพันธุ์ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอ้วน สภาพกรดในมะเขือเทศเป็นตัวทำให้สารชนิดนี้ปนเปื้อนสู่อาหาร คุณอาจได้รับบิสฟีนอล-เอ ถึง 50 ไมโครกรัมต่อลิตรจากมะเขือเทศกระป๋อง ซึ่งปริมาณนี้อาจหยุดยั้งการผลิตสเปิร์ม หรือสร้างความเสียหายให้ไข่ในระดับโครโมโซม จงเลือกกินมะเขือเทศที่บรรจุในขวดแก้ว หรือปรับสูตรอาหารของคุณให้ใช้ซอสพาสต้าแทนมะเขือเทศกระป๋องจะดีกว่า
 

เนื้อโคขุนด้วยข้าวโพด 

โควิวัฒนาการมาเป็นสัตว์กินหญ้า ไม่ใช่ธัญพืช แต่เจ้าของฟาร์มผู้ทำเกษตรแบบยั่งยืนเปิดเผยว่า ทุกวันนี้ชาวไร่ต่างเลี้ยงโคด้วยข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งทำให้พวกมันอ้วนพร้อมเชือดเร็วขึ้น ผลการศึกษาเปรียบเทียบเนื้อโคที่กินข้าวโพดกับหญ้าพบว่า เนื้อโคกินหญ้ามีสารอาหารมากกว่า ทั้งเบต้าแคโรทีน วิตามินอี โอเมกา-3 กรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิก (ซีแอลอี) แคลเซียม แมกนีเซียม และโปแตสเซียม อีกทั้งยังมีโอเมกา-6 ซึ่งทำให้เกิดอาการอักเสบ และไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าอีกด้วย
 

ป๊อปคอร์นไมโครเวฟ 

สารเคมีต่าง ๆ รวมถึงกรดเพอร์ฟลูออโรออกทาโนอิกซึ่งอยู่ในวัสดุบุของถุง คือส่วนหนึ่งของสารประกอบที่มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นหมันของมนุษย์ รวมถึงมะเร็งตับ อัณฑะ และตับอ่อน ผลวิจัยเผยว่า การไมโครเวฟทำให้สารเคมีเหล่านี้ระเหิดและเข้าไปอยู่ในป๊อปคอร์น ซึ่งสารอาจสะสมอยู่ในร่างกายของเราเป็นปี ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือทำป๊อปคอร์นเองด้วยการทอดเมล็ดข้าวโพดในกระทะ ซึ่งคุณสามารถปรุงรสได้ตามใจชอบและยังมีราคาถูกมากอีกด้วย

มันฝรั่งไม่ปลอดสาร 

มันฝรั่งเป็นพืชมีหัว หรือก็คือผักประเภทรับประทานราก ที่สามารถดูดซึมสารฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง และฆ่าเชื้อราที่ตกค้างในดิน มันฝรั่งนั้นทั้งถูกพ่นยาฆ่าเชื้อราระหว่างการเพาะปลูก ถูกพ่นยาฆ่าหญ้าก่อนการเก็บเกี่ยว หลังจากนั้นมันฝรั่งก็จะถูกใส่สารเคมีอีก เพื่อป้องกันการแตกหน่อ ชาวไร่มันฝรั่งหลายรายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่กินมันฝรั่งที่พวกเขาปลูกไว้ขายเด็ดขาด ดังนั้น จงซื้อเลือกซื้อมันฝรั่งปลอดสารพิษที่มีราคาแพงกว่าเพียงเล็กน้อย เพราะการล้างน้ำไม่สามารถกำจัดสารพิษที่ถูกดูดซึมเข้าสู่เนื้อในได้หรอก

 

แซลมอนเลี้ยง 

ตามธรรมชาติแล้ว ปลาแซลมอนไม่ได้เกิดมาเพื่อเบียดเสียดอยู่ในกระชัง และกินถั่วเหลืองหรือเศษไก่ ผลคือ แซลมอนเลี้ยงมีวิตามินดีต่ำกว่าและมีการปนเปื้อนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงสารก่อมะเร็ง โพลีคลอริเนตไบฟีนิล สารหน่วงการติดไฟประเภทโบรมีน และยาฆ่าแมลง เช่น ไดออกซิน และดีดีที ที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วนและเบาหวาน ขอให้เปลี่ยนมาบริโภคแซลมอนอะแลสกาที่ถูกจับมาจากธรรมชาติ ซึ่งแซลมอนกระป๋องส่วนมากนั้นจะไม่ใช่แซลมอนเลี้ยง

   
นมจากโคเลี้ยงฮอร์โมนเทียม 

ผู้ผลิตนมเลี้ยงโคนมด้วยฮอร์โมนเทียมเร่งการเจริญเติบโตของวัว (rBST) เพื่อเพิ่มการผลิตน้ำนม แต่ฮอร์โมนนี้สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อที่เต้านม หรือแม้กระทั่งหนองในน้ำนม และยังนำไปสู่การเพิ่มระดับฮอร์โมนเร่งโตที่ออกฤทธิ์คล้ายอินซูลินในน้ำนม ซึ่งหากคนบริโภคเข้าไปมาก ๆ อาจก่อให้เกิดมะเร็งทรวงอก ต่อมลูกหมาก และลำไส้ใหญ่ ดังนั้นหากเลือกได้ ขอให้คุณเลือกซื้อนมที่ปลอดสารพิษและปลอดฮอร์โมนเทียมจะดีกว่า

 

แอปเปิลที่ปลูกแบบทั่วไป 

แอปเปิลในไร่ส่วนใหญ่นั้นถูกเพาะด้วยการทาบกิ่ง เพื่อที่ว่าผลผลิตหลากหลายพันธุ์นั้นยังสามารถคงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ได้ ผลก็คือทำให้แอปเปิลไม่สามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันต่อศัตรูพืช และต้องถูกพ่นสารเคมีอยู่บ่อยครั้ง ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือ เลือกซื้อแอปเปิลปลอดสารพิษ แต่ถ้ามันแพงเกินไปสำหรับคุณ ก็ขอให้ล้างและปอกเปลือกแอปเปิลทุกครั้งก่อนรับประทาน