ฮือฮา! พระอาทิตย์โผล่ 3 ดวง บนท้องฟ้า ลือลางร้าย

 

 

 

 

 

มื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติขึ้นบนท้องฟ้าเหนือ จ.ศรีสะเกษ พระอาทิตย์โผล่ขึ้นเรียงซ้อนกัน 3 ดวง มองเห็นได้บางจุดเท่านั้น สำหรับจุดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน คือ ในหมู่บ้านศิริทรัพย์ทวีโชค ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ และพื้นที่บางส่วนของ อ.บึงบูรพ์ สร้างความแตกตื่นให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ดังกล่าว จะมองเห็นดวงอาทิตย์อยู่สูงจากพื้นดินทำมุม 45 องศา มีก้อนเมฆขึ้นเป็นวงแหวนขนาดใหญ่ และมีจุดส่งแสงประกายสีรุ้ง 2 จุด ขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อยอยู่ตามเส้นวงแหวน อีกทั้งดวงอาทิตย์อยู่ในเส้นวงแหวนนั้นด้วย ไม่เหมือนกับปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดที่เคยเห็นกันทั่วไป
   
          ขณะที่ นายทองพูน งามศิริ อายุ 81 ปี ชาวบ้านที่เห็นปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ 3 ดวงบนท้องฟ้า กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็นดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นแบบนี้ครั้งแรก โดยเมื่อ 3 ปีก่อน มีเพื่อนที่ จ.ร้อยเอ็ด เคยเล่าให้ฟังว่าเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 3 ดวง จึงกลายเป็นเรื่องถกเถียงกัน เนื่องจากเข้าใจว่าคุยโม้เกินเหตุ แต่เมื่อเห็นด้วยตาจึงเชื่อว่ามีจริง ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณ ถือว่าเป็นอาเพศร้าย เพื่อนบ้านบางคนที่นับถือผีฟ้า ผีบ้านผีเรือน จึงเตรียมทำบุญบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ เพื่อแก้เคล็ดให้เกิดความสบายใจ
   
          ทางด้าน รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.)  กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า ซันด็อก เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของโลก โดยเกิดแสงจากดวงอาทิตย์มาสะท้อนกับกลุ่มเมฆเซอร์รัส ซึ่งเป็นกลุ่มเมฆในระดับสูงที่มีความเย็นจัดจนเป็นผลึกน้ำแข็ง แล้วเกิดการหักเหของแสงกับเกล็ดน้ำแข็งคล้ายการหักเหจากแท่งปริซึม ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดห่างดวงอาทิตย์ 22 องศา แถบแสงที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับสีรุ้ง แถบในสุดจะเป็นสีแดงแล้วจะไล่สีมาเรื่อย ๆ ตามลักษณะการหักเหของแสง จะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และมีให้เห็นทุกปี ทั้งในบริเวณขั้วโลกใต้ สหรัฐอเมริกา และพื้นที่ประเทศไทย สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากมีกลุ่มเมฆเซอร์รัสอยู่ในบริเวณนั้น 

          "นักดาราศาสตร์ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ปกติทางธรรมชาติ จะเรียกว่าปรากฏการณ์อาทิตย์ 3 ดวงก็ได้ เพราะแสงหักเหให้เห็นเป็นแถบสีรุ้ง แต่จะไม่กลม และไม่ควรมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า เพราะเป็นอันตรายอย่างมากต่อดวงตา" รศ.บุญรักษา กล่าว

ขอบคุณเนื้อหา อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ที่มา: http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=7&news_id=30862&page=1
Credit: http://board.postjung.com/719057.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...