Melbourne ดินแดนแห่งสีเขียว
เมลเบิร์น (Melbourne) เป็นเมืองหลวงของ รัฐวิคตอเรีย (Victoria) ในอดีตตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 – 1927 เมลเบิร์น ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนที่ปี 1927 ทางรัฐบาลออสเตรเลียจะแต่งตั้ง กรุงแคนเบอร์ร่า (Canberra) เป็นเมืองหลวงแทน
อย่างไรก็ตาม เมลเบิร์น ก็ยังเป็นรัฐสำคัญทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย แม้จะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ เมลเบิร์น ก็มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มัดใจนักเดินทางจากทั่วโลก เนื่องจากเมืองแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น Garden Cityเพราะเมื่อมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่อากาศดี ไร้มลพิษ และด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่บริเวณปากแม่น้ำยาร์รา จึงทำให้มีทัศนียภาพสวยงาม เหมาะสำหรับพักผ่อนและท่องเที่ยว
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่...
Cook’s Cottage
ในอดีต Cook’s Cottage ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1755 ในหมู่บ้านเกรทเอตัน (Great Ayton) ประเทศอังกฤษ เดิมเป็นบ้านของบิดามารดา กัปตันคุ๊ก บุคคลที่ค้นพบทวีปออสเตรเลีย ต่อมาได้ถูกรื้อมาประกอบขึ้นใหม่ที่สวน ต่อมา ท่านเซอร์รัสเซล กริมเวด ได้ซื้อมาจากอังกฤษ แล้วนำมาประกอบใหม่ โดยตั้งไว้ที่ สวนฟิทซ์รอย (Fitzroy Gardens) ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 1934 เพื่อเป็นของขวัญครบรอบ 100 ปี ของรัฐวิคตอเรีย และเพื่อเป็นการระลึกถึงการเดินทางค้นพบทวีปออสเตรเลียของกัปตันคุ๊ก ซึ่งนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมภายในบ้านได้
ทั้งนี้ ภายในกระท่อมตกแต่งด้วยของเก่าและของใหม่ที่เลียนแบบของดั้งเดิม มีเครื่องใช้ไม้สอยที่ทำด้วยไม้และโลหะ รวมถึงห้องครัวที่ตกแต่งแบบสมัยวิคตอเรีย ไฮไลท์สำคัญคือเปลเด็กทำด้วยไม้โอ๊ค ตะเกียง เทียนไข สะท้อนภาพภรรยาของ กัปตันคุ๊ก ที่นุ่มนวล อ่อนโยน เพราะตอนกลางคืนต้องทอผ้า หรือปั่นด้ายไปพร้อมกับไกวเปลกล่อมลูกนอน บริเวณรอบ ๆ บ้านใช้เป็นพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวและสมุนไพร
Fitzroy Gardens
เป็นสวนสาธารณะสไตล์อังกฤษยุควิคทอเรีย มีอายุกว่า 150 ปี มีไว้เพื่อให้ชาวเมืองมาออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ บรรยากาศสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้อายุเก่าแก่ น้ำพุ รูปปั้นสลักแบบยุโรป รวมทั้งทางเดินรูปยูเนี่ยนแจ๊ค ( Union Jack) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติอังกฤษ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับประเทศอังกฤษ และอาคาร Conservatory เป็นอาคารอนุรักษ์พันธ์ไม้เมืองร้อน ภายในปรับอุณหภูมิให้มีความร้อนชื้นเหมือนในประเทแถบเอเชีย ถัดจากอาคารออกไปมีต้นนางฟ้า ที่มีการแกะสลักเปลือกให้เป็นรูปนางฟ้ากับสัตว์ในนิทานโบราณ ใกล้ๆ กันมีบ้านจำลองขนาดบ้านตุ๊กตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้รอบ ๆ
Royal Botanic Gardens
เป็นสวนพฤษศาสตร์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก พื้นที่ของสวนมีลักษณะเหมือนเนินขึ้น ๆ ลง ๆ ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำยาร์รา นักท่องเที่ยวอาจมาเฝ้าดูหงส์ดำว่ายน้ำอย่างสง่างาม หรืออาจเดินเล่นบนสนามหญ้าที่มีต้นไม้พื้นเมืองแปลก ๆ ของออสเตรเลียอยู่นับพันชนิด และถ้าไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์จะเป็นครอบครัวพากันมานั่งปิคนิค หรือคู่รักพากันมาเดินเล่น
Flinders Street Station
สถานีรถไฟแห่งแรกออสเตรเลีย ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางเมือง นับได้ว่าเป็นมีสถาปัตยกรรมคลาสสิค อายุกว่า 100 ปี มีความสำคัญเหมือนเป็นศูนย์กลางของสถานีรถไฟประจำเมือง คล้ายกับสถานีรถไฟหัวลำโพงของบ้านเรา
Queen Victoria Market
ตลาดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง สำคัญสินค้าราคาไม่แพง มีทั้งส่วนที่เป็นตลาดสด ขายผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และตลาดขายของใช้ เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึก สะอาดและจัดโซนไว้อย่างเป็นระเบียบ
Melbourne Museum
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์มีโดดเด่นสะดุดตา ด้วยรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่มีสีสันขนาดใหญ่ อาคารแบ่งเป็น 6 ชั้น อยู่ใต้ดิน 3 ชั้น เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปแบบทันสมัย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ นักเรียน และนักศึกษาที่จะเข้ามาหาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารเครื่องดื่ม โรงภาพยนตร์ ICE (Interactive Cinema Experience) ที่มีจอภาพขนาดใหญ่ ระบบเสียงรอบทิศทาง และทุกที่นั่งมีจอคอมพิวเตอร์ให้ผู้ชมได้แสดงความคิดเห็น ควบคุมการเดินเรื่อง เล่นเกมส์ต่าง ๆ ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีป่าไม้ซึ่งทำจำลองไว้เหมือนจริง มีสัตว์ต่าง ๆ กว่า 20 ประเภท ต้นไม้พันธุ์ต่าง ๆ ร่วม 10,000 ชนิด
Melbourne Aquarium
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยาร์ร่า และสร้างลึกลงไปใต้แม่น้ำยาร์ร่า โดยแยกประเภทของสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ตามระดับความลึกของน้ำที่มันอาศัยอยู่ บนชั้นลอยมีสระหิน ซึ่งสามารถมองเห็นเหล่าปลาดาว ปูเสฉวน นอกจากนี้ ยังมีตู้โชว์แมงกะพรุนพันธุ์ต่าง ๆ ปะการัง รวมไปถึงมีโซนที่เป็นอุโมงค์ลึกลอดใต้ท้องน้ำ ให้นักท่องเที่ยวงชมสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล โดยสามารถทดลองดำน้ำลงไปหยอกล้อกับปลาฉลามได้อีกด้วย
Eureka Skydeck 88
เป็นอาคารสูงที่สุดของเมืองเมลเบิร์น บนชั้นที่ 88 ทุกสายตาจะได้มองเห็นวิวของกรุงเมลเบิร์นในมุมมองแบบพาโนรามา หรือ 360 องศา เห็นแม่น้ำยาร์ราที่ไหลคดเคี้ยว เห็นการแบ่งผังเมืองเมลเบิร์นที่เป็นระเบียบ นอกจากนั้น ด้านบนยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเสียวเล่น ด้วยการไปยืนบนกระจกใส
ถนน 5 สายสุดฮิต
1. Lygon Street คนทั่วไปมักจะเรียกว่าย่าน "ลิตเติ้ลอิตาลี" เพราะเป็นย่านที่ชาวอิตาเลี่ยนอพยพกันมาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลก ในทศวรรษที่ 1960 และ1970 อาศัยอยู่ ที่นี่มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ห้องเสื้อแฟชั่น
2. Toorak Road ย่านชานเมืองที่มีเศรษฐีพักอาศัยอยู่ เป็นถนนที่มีร้านค้า ภัตตาคาร บิ้วตี้ช้อปสไตล์หรูหรา
3. Chapel Street ถนนสายนี้เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีของจำหน่ายมากมาย ตั้งแต่ของใช้ทันสมัยราคาแพง ไปจนถึงของใช้ธรรมดาราคาถูก
4. Brunswick Street ตอนเย็น ๆ ชาวเมลเบิร์นจะนิยมนำเครื่องดื่มติดมือ และหาร้านอาหารเข้าไปนั่งทอดอารมณ์ หรือรับประทานอาหารกัน ซึ่งในย่านนี้มีร้านอาหาร บาร์ไวน์ และร้านเหล้าจำนวนมาก
5. Fitzroy Street เป็นย่านแฟชั่นชั่นนำที่สุดแห่งเมืองเมลเบิร์น วันที่อากาศดี แดดร่มลมตก ร้านอาหารต่าง ๆ จะนำโต๊ะรับประทานอาหารออกมาจัดวางที่หน้าร้าน แล้วกางร่มตามโต๊ะ เพื่อสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารให้คล้ายคลึงกับสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก