หนุ่มแสบบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ แต่พนักงานภายในร้านมีสติเรียกคนช่วยจนก่อนแจ้ง ตร.รวบตัวไว้ได้ทันควัน ผู้ต้องหาสารภาพทำมาแล้ว 6 ครั้ง อ้างต้องการนำเงินไปส่งเสียให้ลูกเมียและนำไปใช้หนี้นอกระบบ พนักงานสอบสวนจึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท สาขาตลาดศรีสุข เลขที่ 60/49 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ ผกก.สภ.บางแก้ว พ.ต.ท.วรพล กนกวรกิตต์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รองผกก.ป. พ.ต.ท.วรรณพรต ปิ่นปกบุตร สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ สภ.บางแก้ว คุมตัวนายณรงค์ฤทธิ์ ถมมา อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ พร้อมของกลาง มีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุต (ดาบซามูไร) จำนวน 1 เล่ม จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-น้ำตาล ทะเบียน ยงล-55 กทม.จำนวน 1 คัน หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ จำนวน 1 ใบ กระเป๋าหนังแบบสะพายสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุใช้มีดดาบชิงเงินสดจำนวน 3,270 บาท สุราต่างประเทศยี่ห้อแบล็กเลเบิล 3 ขวด และซุปไก่สกัดยี่ห้อแบรนด์ 1 กล่องจากร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รองผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่ทั้งกทม.และปริมณฑลซึ่งล่าสุดได้ก่อเหตุในช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ (28 ต.ค.56) แต่ไปไม่รอด ถูกพนักงานร้านสะดวกซื้อและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดช่วยกันล้อมจับไว้ได้ พร้อมกับโทร.แจ้งให้สายตรวจมารับตัวไปดำเนินคดีต่อ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าพนักงานของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงได้ใช้สติในการแก้ปัญหาโดยวิ่งออกมาจากร้านในขณะที่โจรไม่ระวังตัว และเรียกให้คนที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันจับไว้ได้
ด้าน น.ส.นฤมล เสริมศรี อายุ 19 ปี บ้านเดิมเลขที่ 232 ม.3 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย พนักงานร้านสะดวกซื้อเล่าว่า วันเกิดเหตุตนอยู่กับเพื่อนพนักงานซึ่งเป็นผู้หญิงอีกคน โดยผู้ต้องหาเดินเข้ามาในร้านและใช้มีดจี้บังคับให้เพื่อนของตนซึ่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์หยิบเงินให้ โดยยืนหันหลังให้ประตู ส่วนตนอยู่หลังร้านจึงใช้จังหวะที่ผู้ต้องหาหันหลังรีบวิ่งออกไปด้านนอกร้าน ก็พบจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาจอดติดเครื่องอยู่ จึงดับเครื่องแล้วถอดกุญแจออกนำไปซ่อน ก่อนตะโกนเรียก รปภ.และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในตลาดหลังร้านมาช่วยกันรุมจับตัวไว้ได้พร้อมกับโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งตนเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 1เดือนแต่ได้รับการอบรมจากทางบริษัทให้มีสติในการแก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์ที่ร้านไปแล้ว 1 ครั้ง จึงทำให้ครั้งนี้มีสติสามารถจับกุมคนร้ายได้
ขณะที่นายณรงค์ฤทธิ์ ถมมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถให้ผู้บริหารของบริษัทญี่ปุ่นใน กทม.ได้เงินเดือน 12,000 บาท ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งไปเลี้ยงดูภรรยาและบุตรอีก 3 คนที่อยู่ต่างจังหวัดเพราะหาเงินเพียงคนเดียว ประกอบกับเป็นหนี้นอกระบบ จึงใช้โอกาสช่วงกลางดึกในการก่อเหตุ ก่อนที่ตอนเช้าจะตื่นไปทำงานตามปกติ ส่วนสิ่งของที่ได้มาก็จะนำไปขายและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งร้านค้าที่เลือกชิงทรัพย์นั้นจะเป็นร้านค้าที่อยู่ใกล้กับที่พักและที่ทำงาน โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป