ในความเป็นจริงการเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเผชิญอยู่เริ่มต้นมาจากใจของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มต้นมาจากใจของเรา หากเราสามารถพิชิตใจตนเองได้ เราก็จะสามารถพิชิตสิ่งต่าง ๆ ได้ การพิชิตความขี้เกียจที่เราจะมาดูกันในวันนี้ เป็นเคล็ดลับที่พิชิตใจของเราเองนั่นแหละครับ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยมาดูกันว่าเคล็ดลับต่าง ๆ มีอะไรบ้าง
1.ทำด้วยใจรัก
จงเป็นตัวของตัวเองและทำสิ่งที่คุณชอบ จำไว้ว่าการทำสิ่งที่ชอบจะนำมาซึ่งพลังงาน ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
2.ลงมือทำตามกฎ 15 นาที
"การลงมือ" คือยาพิชิตความขี้เกียจที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเบื่อหน่ายแค่ไหน ขอให้คุณลงมือทำสัก 15 นาที จำไว้ว่าผลงานในช่วง 15 นาทีแรกอาจจะใช้ไม่ได้เลย แต่นี่จะเป็นรากฐานของความสำเร็จ
3.เปิดรับความท้าทาย
ลบความคิดที่ว่า "ฉันทำไม่ได้" ทิ้งไป เพราะความผิดพลาดเป็นครูที่ดีที่สุดของมนุษย์
4.มองภาพเล็กไว้ก่อน
การมองภาพใหญ่หรือการคาดหวังเป้าหมายในระยะยาวอาจทำให้เกิดความย่อท้อได้ง่าย ๆ ควรที่จะวางแผนเป็นลำดับขั้นหรือแบ่งงานเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้แก่ตนเองจะดีกว่า
5.ติดตามความคืบหน้า
การเขียนความก้าวหน้าของคุณลงในสมุดทุกวัน ช่วยให้คุณจดจ่อกับเป้าหมายและมองเห็นวิธีการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ชัดขึ้น
6.ให้คำมั่นสัญญา
บอกให้เพื่อนฝูงหรือคนใกล้ตัวรับรู้เกี่ยวกับเป้าหมายของคุณ เพราะการให้คำมั่นสัญญาจะเป็นการผูกมัดตัวเอง อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกฮึกเหิมและมีกำลังใจมากขึ้นด้วย
7.เป็นผู้ "รอ" ที่ดี
เลิกหวังผลแบบทันทีทันใด แล้วหันมาอดทนเพื่อผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต
8.ให้รางวัลตัวเอง
ยอมให้ตัวเองได้หยุดพักเมื่อทำงานเล็ก ๆ สำเร็จ เพื่อสะสมกำลังไว้ต่อสู้ในระยะยาว
นอกจาก 8 วิธีดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกวิธีที่จะช่วยผ่อนคลายตัวเราเองไม่ให้เคร่งเครียดมากเกินไป จนทำให้เกิดความตึงเครียดในชีวิต แล้วเมื่อตึงเกินไปก็จะถึงจุดที่ขาดผึงได้อย่างง่ายได้ นั่นคือ หลักการใช้ชีวิตอย่างสมดุลครับ
การบังคับใจตนเองให้ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์และทำความดีอยู่เสมอต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น จงอย่าปล่อยให้ความสุขสบายเพียงชั่วครั้งชั่วคราวมาลวงให้คุณไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งปักใจว่าการก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสือ การทำงานตั้งแต่เช้ามืดจนค่ำ หรือหมกมุ่นกับกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนั่นแปลว่าคุณกำลังละเลยบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ นอกจากคุณจะถามตัวเองว่า คุณกำลัง "ขี้เกียจ" ทำงานอยู่หรือเปล่า
คุณลองหันมาถามตัวเองดูว่า คุณกำลังขี้เกียจจัดสรรเวลาเพื่อพักผ่อน "ขี้เกียจ" แก้ไขจุดบกพร่องเพื่อลดขั้นตอนการทำงานหรือว่าคุณกำลัง "ขี้เกียจ" หยุดพักเพื่อใช้เวลาในการคิดทบทวนสิ่งที่ทำอยู่บ้างหรือเปล่า ฯลฯ เพราะจริง ๆ แล้วชีวิตที่เป็นสุขก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า "ความสมดุล
ผู้เขียน : ดร.สมสิทธิ์ มีแสงนิล