เมืองสิคีริยา(Sigiriya) : อนุสรณ์สถานคนบาป

 เมืองสิคีริยา (Sigiriya) : อนุสรณ์สถานคนบาป
ประเทศศรีลังกา


• ประวัติความเป็นมาของสิคีริยา

• สิคีริยา มีประวัติความเป็นมายาวนาน นับตั้งแต่พุทธปรินิพพานได้ 277 ปี 
พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะได้เสด็จประพาสและตั้งชื่อภูเขาแห่งนี้ว่าสีหคีรี ซึ่งแปลว่า เขาสิงห์
 ต่อมาใน พ.ศ.440-454 พระเจ้าปุลหัตถะได้สร้างป้อมพร้อมศาลาโรงธรรมไว้ที่นี่ 
คิดได้ไงไปสร้างเมืองอยู่บนเขาสูงได้ขนาดนี้อ่ะ สุดยอดจริงๆ

• การที่จะสร้างให้สิคีริยาเป็นราชธานนี้ มีมาตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าธาตุเสน ราชธานีของพระองค์อยู่ที่อนุราชปุระ 
พระองค์มีพระราชประสงค์จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีอำนาจทั้งฟ้าและดิน จึงต้องหาที่สร้างวังบนยอดเขา 



ต่อมาเจ้าชายกัสสปะพระราชโอรสผู้ประสูติจากมเหสีฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นหญิงสามัญชน ได้ยึดอำนาจการปกครองจากพระเจ้าธาตุเสน ทำให้เจ้าชายโมคคัลลาน์ รัชทายาทซึ่งประสูติจากสมเด็จพระราชินีต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศอินเดีย

• หลังจากเจ้าชายกัสสปะ ได้จับพระราชบิดาขังคุกแล้วโบกปูนปิดทับทั้งที่ยังมีพระชนม์ชีพ จากนั้นก็สถาปนาพระองค์เองเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงไม่โปรดที่จะครองราชย์อยู่ที่อนุราธปุระ ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ที่สิคีริยา ใช้เวลาในการสร้างนาน 7 ปี 

(ภาพจำลองของเมือง) 

ปัจจุบัน

• พระเจ้ากัสสปะครองราชย์อยู่นาน 18 ปี ก็ถูกเจ้าชายโมคคัลาน์ พระอนุชาต่างพระมารดา 
ยกทัพมาจากประเทศอินเดียมาชิงพระราชบังลังก์คืน ทรงล้อมสีหคีรีไว้แน่นหนา พระเจ้ากัสสปะไม่มีทางสู้ 
จึงตัดสินพระทัยปลิดพระชนม์ชีพพระองค์เองในพระราชวังบนขุนเขาแห่งนี้

• สิคีริยา เป็นอนุสรณ์สถานของคนบาป ลูกฆ่าพ่อเพื่อชิงราชบัลลังก์ ทั้งๆ ที่พระเจ้าธาตุเสนเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชหฤทัยดี 
มีเมตตา เป็นที่ยกย่องของข้าราชบริพารและพสกนิกรของพระองค์




• เวลาผ่านไป ขุนเขาสีหคีรีก็ถูกทอดทิ้งเป็นเมืองร้างนานนับศตวรรษ ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นปกคลุมเป็นป่ารกชัฏ 
เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาชนิด 





ล่วงมาจนถึงศตวรรษที่ 19 พันเอกเบส ฟอร์เบส นายทหารอังกฤษได้เป็นผู้ค้นพบความลับในป่าลึก 
เขาได้บันทึกถึงสภาพแวดล้อมของสีหคีรีไว้อย่างละเอียด แต่ก็ไม่สามารถคลำทางไปจนถึงยอดของสีหคีรีได้ 
ต่อมาในพ.ศ. 1853 อดัมส์และเบเลย์ พร้อมด้วยชาวพื้นเมืองอีก 2 คน ได้ปีนเขาขึ้นไป สำรวจพบภาพจิตรกรรมฝาผนัง 
ภาพชุดแรกที่เขาค้นพบเป็นรูปสิงโต 
ต่อมาในปี พ.ศ.1875 เดวิดก็พบภาพชนิดเดียวกันทางด้านตะวันตก ภาพเหล่านี้ลบเลือนไปบ้าง 
กรมศิลป์ฯ แห่งชาติ จึงได้เข้าไปอนุรักษ์ไว้เป็นครั้งแรก



• ในปี พ.ศ. 1876 บัดเลย์ ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างบนเขาแห่งนี้ ได้มีการกล่าวถึงทางขึ้นทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งถูกปิดด้วยป่าทึบ มีผู้ค้นพบคูน้ำและป้อมกันภัย ต่อมานายเอช ซี พี เบล อธิบดีกรมโบราคดีได้ค้นพบทางขึ้นด้านตะวันออก โดยจ้างคนไต่เขาขึ้นไปหาภาพเขียนเพิ่มขึ้น เริ่มทางป่ารอบๆ เขา และเริ่มบูรณะจิตกรรมโบราณนี้อย่างจริงจังตั้งแต่ปีพ.ศ. 1894

เจ้าชายกัสสปะทรงพระราชประสงค์จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีอำนาจทั้งฟ้าและดิน จึงต้องหาที่สร้างวังบนยอดเขาที่สูงเสียดฟ้าเช่นนี้


จิตกรรมโบราณ
ภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ประตูสิงโต LION ROCK แท่นศิลาราชสีห์
ทางขึ้นภูเขาสูง
 LION ROCK แท่นศิลาราชสีห์ มุมสูง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพระราชวังเคยตั้งอยู่ตรงนี้จริงๆคัฟ

อีกมุมนึง ดูร่มรื่นดีนะ คนโบราณนี่โชคดีจัง อยากย้อนอดีตไปเห็นถึงว่า..เค้าใช้ชีวิตอะไรยังไง
ความมหัศจรรย์ของคนโบราณที่ชอบทำอะไร แบบ อลังการงานสร้างบนยอดเขาสูง อ่างเก็บน้ำบนยอดเขาสูง

อ่างเก็บน้ำ พระราชวังสิคีริยา ภูเขาสิคีริยา 
หอบน้ำขึ้นไปได้ไงคน 1,500 กว่าปีก่อนเนี่ย ขนส่งน้ำกันยังไงไม่เข้าใจ
บริเวณพื้นที่โดยรอบโดยรวมทั้งหมด
ภูเขาที่มีพระราชวังอยู่ ตระหง่านอยู่ข้างหน้า มองเหมือนใกล้นะ แต่เดินคงขาลากแน่ๆ
บรรยากาศดู ดี๊ ดีเนาะ ไม่รู้จะร้อนหรือเปล่า
ดูวัฒนธรรมเค้าดิ แบบเอเชี่ยน มากๆ อ่ะ มีช้าง มีพระ รูปนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้ไกลตัวเลย
คนขึ้นไปทัศนา กันเยอะมากๆ อ่ะ น่าจะเหนื่อยและร้อน แต่คิดว่าคุ้มที่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ดูกันให้เต็มตาอีกที แล้วค่อยกลับเมืองไทยกัน สวยจริงๆ  
นี่ขนาดไม่เหลือซากอะไรให้เห็นถึงอารยธรรมแล้วนะ
ยิ่งถ้าตอนที่มีพระราชวังอยู่จะอลังการขนาดไหนจินตนาการไม่ออกจริงๆ


อ้างอิ้งที่มา http://www.oceansmile.com/Srilangka/Sigiriya.shtml


Credit: http://board.postjung.com/535183.html
26 ต.ค. 56 เวลา 23:22 5,023 1 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...