สืบเนื่องจากกรณีพิพาทระหว่างวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ต้องการให้ มูลนิธิวัดพนัญเชิงฯ (เชียง เต็ก ตึ้ง) ย้ายสุสานฝังศพคนไทยเชื้อสายจีนเกือบ 2,000 หลุม ออกจากที่ดินของวัด เพื่อปรับภูมิทัศน์ทำที่จอดรถ สร้างตึกอาพาธสงฆ์ และสถานที่ปฏิบัติธรรมรับอาเซียน ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะต้องการจัดการปัญหาที่ทางวัดได้รับการร้องเรียนว่า มีการนำพื้นที่หลุมฝังศพไปจำหน่ายในราคาไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท รวมทั้งมีการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงรักษา ทั้งที่ไม่เป็นความจริง แต่ทางมูลนิธิฯ ไม่ยอมจึงดึงผู้ว่าฯ อยุธยา เข้ามาไกล่เกลี่ยนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 ตุลาคม 2556) พระเทพรัตนากร (นพปฎล กตสาโร) เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้ยื่นคำขาดให้ทางมูลนิธิย้ายสุสานฝังศพออกจากที่ดินของวัด จำนวนทั้งหมด 14 ไร่ ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 แต่การย้ายสุสานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการฝังศพบรรพบุรุษชาวไทยเชื้อสายจีนที่นี่มาตั้งแต่ปี 2495 ซึ่งในจำนวนนั้นมีศพไร้ญาติมากกว่า 3,000 ศพ
ด้านคณะกรรมการมูลนิธิฯ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทางวัดรับคืนที่ดินคืนไปแล้ว 7 ไร่ เพื่อสร้างฌาปณสถาน ดังนั้นจึงเหลือที่ดินให้มูลนิธิดำเนินการฝังศพบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีน เพียง 7 ไร่เศษเท่านั้น ซึ่งบางหลุมก็อยู่นอกเหนือจากโฉนดที่กำลังมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้ประชุมร่วมกันจนมีข้อสรุปว่า หากไม่มีทางเลือก มูลนิธิฯ ก็พร้อมให้ทางวัดพนัญเชิงวรวิหารเข้ามาดำเนินการดูแลรักษาหลุมศพเอง รวมทั้งเก็บเงินค่าบำรุงรักษาหลุมศพด้วย แต่ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้ย้ายหลุมศพออกไป เนื่องจากการย้ายหลุมศพจะกระทบกระเทือนจิตใจลูกหลานและผิดหลักฮวงซุ้ย
นอกจากนี้ ความพยายามของวัดพนัญเชิงวรวิหารที่ต้องการเรียกคืนที่ดินในครั้งนี้อาจเป็นไปได้ยาก เพราะนอกจากลูกหลานของบรรพบุรุษจำนวนมากไม่เห็นด้วยแล้ว รายชื่อทายาทบางส่วนยังสูญหายไปกับน้ำท่วมจนไม่สามารถติดตามได้ ส่วนศพไร้ญาติที่ฝังอยู่ในสุสานมากกว่า 3,000 ศพนั้น มาจากการล้างป่าช้า 2 ครั้ง และศพที่มาจากโรงพยาบาล ซึ่งการขุดศพขึ้นมาจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะจะต้องหาสถานที่เก็บและฝังต่อไป