ไม่ควรใช้ยานอนหลับ
ยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ และควรใช้ตามดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น
ห้องนอนควรเงียบ
อย่าให้มีเสียงรบกวน อาจใช้ที่อุดหูเพื่อกลบเสียงที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น เสียงการจราจร เสียงเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งเสียงกรนของคนนอนข้างๆ
อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว นอนหลับสบายขึ้น
คนที่ทำงานกลางคืนแล้วต้องนอนกลางวัน
ควรบังแสงสว่างในห้องให้มืดสนิท เพราะแสงสว่างมีผลต่อนาฬิกาของร่างกายเรา ถ้ามีแสงแล้วลอดผ่านมาในห้องนอนจะทำให้นอนไม่หลับ ส่วนคนที่นอนปกติแต่ตื่นนินยาก ให้เปิดม่านหน้าต่างไว้เพื่อให้แสงสว่างเข้ามาในห้องทำให้ตื่นง่ายขึ้น
นอนหลับเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น
อย่านอนกลางวันเป็นเวลานานๆ ถ้าง่วงก็ให้งีบเพียง 20 นาทีเท่านั้น
อากาศในห้องต้องเย็นสบาย
ไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป การวิจัยพบว่าหากมือหรือเท้าเราได้รับความอบอุ่นการนอนจะยิ่งดีมากขึ้น
ออกกำลังกาย
เป็นวิธี่ดีที่สุดที่ช่วยให้เรานอนหลับสบาย หลับลึกโดยเฉพาะการออกกำลังกายช่วงบ่ายจะทำให้รู้สึกง่วงและหลับสนิทต่อเนื่องถึงเช้า ตื่นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่า
หลีกเลี่ยงสารคาเฟอีนและนิโคติน
เนื่องจากการดื่มชา กาแฟและน้ำอัดลม รวมถึงการสูบบุหรี่มีสารที่มีฤทธ์กระตุ้นประสาท ทำห้นอนไม่หลับ
อย่ารับประทานอาหารปริมมาณมากๆ
ก่อนเข้านอน ควรทานอาหารก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง อย่ารับประทานอาหารรสจัด หรือมีไขมันสูง จะทำให้เกิดลมในกระเพาะ และทำให้ต้องดื่มน้ำมาก ช่งดึกต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำทำให้นอนไม่หลับได้
ทำให้เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ
โดยการเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิมทุกๆ วัน อย่านอนตื่นสาย บางครั้งเราอยากตื่นสายในวันหยุดสุดสัปดาห์บ้าง กลายเป็นว่าเรานอนไม่หลับในคืนต่อมา และอ่อนเพลียในวันรุ่งขึ้น ถึงแม้จะนอนชดเชยในเวลากลางวันก็ทดแทนกันไม่ได้