ดาวหางที่เดินทางเข้าชนโลกในยุคแรกๆ นั้น ตัวมันเองประกอบด้วยน้ำ แอมโมเนีย เมทานอล และคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์อย่างเพียงพอในการผลิตกรดอะมิโน และเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิต ที่มาของภาพ http://img2.tgdaily.com/sites/default/files/stock/article_images/science/lifeonearthstart.j
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติและนักวิจัยของห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์ (Lawrence Livermore National Laboratory : LLNL) ได้ร่วมกันยืนยันว่าจริงๆ แล้ว สิ่งมีชีวิตอาจจะมาจากนอกโลก ทั้งนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ดังกล่าวช็อกกับก้อนน้ำแข็งผสมที่ถูกบีบอัดไว้ โดยมันคล้ายกับที่ถูกพบในดาวหางซึ่งมันสามารถสร้างกรดอะมิโนได้เป็นจำนวนมากที่ซึ่งเป็นหน่วยการสร้างชีวิต
ทั้งนี้การทดลองในครั้งแรกได้ยืนยันในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เนีย โกลด์แมน แห่ง LLNL ได้ทำนายไว้ครั้งแรกในปี 2010 และ อีกครั้งหนึ่งในปี 2013 โดยเนียได้ใช้การจำลองการวิจัยบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ LLNL
งานวิจัยของโกลด์แมนเริ่มพบว่าก้อนน้ำแข็งของดาวหางที่พุ่งเข้าชนโลกเมื่อพันล้านปีก่อนหน้านี้นั้นอาจจะผลิตพรีไบไอติคที่หลากหลาย หรือองค์ประกอบสำหรับการสร้างสิ่งมีชีวิต รวมไปถึงกรดอะมิโน
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ากรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างโปรตีน งานวิจัยของโกลด์แมนได้ทำนายไว้ว่าโมเลกุลพื้นฐานที่พบในดาวหางที่พุ่งชนโลกเมื่อหลายพันล้านปีนั้น (อาทิ น้ำ แอมโมเนีย เมทานอล และคาร์บอนไดออกไซด์)นั้น สามารถเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์อย่างเพียงพอในการผลิตกรดอะมิโนและเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ของอิมพีเรียลคอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน และมหาวิทยาลัยเคนท์ ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดลองและได้ผลวิจัยคล้ายกับผลงานวิจัยที่โกลด์แมนได้จำลองไว้บนคอมพิวเตอร์ โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นกรดอะมิโนชนิดต่างๆ หลากหลายที่มีการขึ้นรูปแล้ว
ทั้งนี้ผลลัพธ์ดังกล่าวได้ยืนยันว่าการทำนายก่อนหน้านี้ที่ว่าการพุ่งชนโลกของดาวหางก่อให้เกิดสารพรีไบโอติค และเกิดการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้น ณ สถานที่ที่ดาวหางพุ่งเข้าชน นอกจากนี้ โกลด์แมน ได้กล่าวเสริมว่า งานวิจัยที่เขากำลังดำเนินการอยู่นี้จะเป็นการให้ข้อมูลที่มีความใกล้เคียงความเป็นจริงว่า เส้นทางการสังเคราะห์สร้างองค์ประกอบโปรตีนในระบบสุริยะจักรวาลของเรามาได้อย่างไร และขยายไปถึงแหล่งที่เป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิตได้เริ่มกำเนิดขึ้น
จากที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า ดาวหางเป็นก้อนน้ำแข็งและเป็นสารตั้งต้นอินทรีย์ของกรดอะมิโน ทั้งนี้ได้มีการยืนยันเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้มีการพบไกลซีน (Glycine : เป็นกรดอะมิโนที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดากรดอะมิโน) บนดาวหาง Wild-2
ทั้งนี้ งานวิจัยต้นแบบของโกลด์แมนได้จำลองพลวัตของโมเลกุล โดยได้แสดงให้เห็นว่าคลื่นช็อคที่เกิดจากการชนกันของดาวเคราะห์ ได้ผ่านเข้าไปยังก้อนผสมของดาวหางและก่อให้เกิดการสังเคราะห์กรดอะมิโนขึ้น ซึ่งกลไกการสังเคราะห์นี้อาจจะก่อให้เกิดโมเลกุลพรีไบโอติคที่หลากหลายตามเงื่อนไขของการพุ่งชน โดยเป็นอิสระจากลักษณะภายนอกหรือสิ่งแวดล้อมทางเคมีที่มีอยู่ก่อนแล้วบนดาวเคราะห์
ผลลัพธ์ทั้งจากงานวิจัยการจำลองบนคอมพิวเตอร์ของโกลด์แมน และจากการทดลองของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นับว่าเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญมากในการทำความเข้าใจในเรื่องของจุดเริ่มต้นของการสร้างสิ่งมีชีวิต
ทั้งนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าในตัวก้อนน้ำแข็งที่มีสารประกอบเดียวกันกับสารประกอบที่เกิดขึ้นจากการพุ่งชนของดาวหาง อาจจะถูกพบได้ในระบบสุริยะจักรวาล อาทิ ดวงจันทร์ของดาวเสาร์ที่ชื่อว่า เอนเซลาดัส ประกอบไปด้วยสารอินทรีย์ที่น้ำหนักเบาและก้อนน้ำแข็ง โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้สรุปว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่การพุ่งชนของดาวหางที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในระดับหนึ่ง (หรือพลังงานสูงในระดับหนึ่ง) จะเสริมให้เกิดคลื่นช็อคที่ทำให้เกิดการสังเคราะห์สารประกอบอินทรีย์ที่ซับซ้อนมากขึ้น รวมไปถึงกรดอะมิโนจากก้อนน้ำแข็งดังกล่าว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
http://www.spacedaily.com/reports/Its_a_shock_Life_on_Earth_may_have_come_from_out_of_this_world_999.html
http://www.chemistry2011.org/news/OrganicChemistry/SyntheticChemistry/LifeOnEarthShockinglyComesFromOutOfThisWorld