วันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.อักษร วงค์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี  ยะปาละ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส.ฯ พ.ต.ท.ยุทธการ เมธา สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาวัยรุ่นคึกคะนอง ใช้รองเท้าแตะตบหัวนักท่องเที่ยวด้วยความคึกคะนองและนำภาพคลิปโพสต์ลงในยูทูปและเฟซบุ๊ก เผยแพร่ ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความอับอาย และเสียภาพพจน์การท่องเที่ยวของเชียงใหม่อย่างมาก 

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี 2 คน เป็นชาว ต.ป่าไผ่  อ.สันทราย  จ.เชียงใหม่ โดยทั้งสองถูกตั้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มี ร.ต.อ.ทรงศักดิ์  จันทร์เจือแก้ว เป็นพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ เหตุเกิดหน้าร้านกิ๊ปซ๊อปฟรีเบิร์ด ถนนอารักษ์ ปากทางเข้า ถ.สิงหราชซอย 3 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่  เมื่อปลายเดือนก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.00 น. โดยผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงร่วมสอบสวนปากคำผู้เสียหายคือนายมาร์ก มอนติ อายุ  58  ปี แจ้งว่าตามวันเวลาที่เกิดเหตุขณะที่ตนเองเดินอยู่ริมถนน อารักษ์ มีชายไทยวัยรุ่นไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดได้เดินสวนทางมากับตน จากนั้นขณะเดินสวนทางกันชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้ใช้รองเท้าตีเข้าที่ศีรษะตนอย่างแรง แล้วรีบวิ่งหลบหนีไป  

จากการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีข้อมูลเบื้องต้นเก็บไว้อยู่แล้ว จึงเดินทางไปติดตามตัววัยรุ่นทั้ง 2 คนได้ในที่สุด ด้านเยาวชนทั้งคู่ ต่างก็ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า วันเกิดเหตุได้เดินทางออกมาจากวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งพร้อมกับเพื่อนรวม 4  คน พร้อมตกลงกันว่าจะไปหาเรื่องแกล้งคน จากนั้นพากันขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบนายมอนติ จึงตรงเข้าไปหาและก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รับมอบตัวและจัดทำบันทึก ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.อักษร เผยว่า ตอนแรก ผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ตอนช่วงเกิดเหตุ ปรากฏว่า วันนี้เพื่อนชาวต่างประเทศด้วยกันเห็นภาพในยูทูป ที่ถูกเผยแพร่จึงได้โทรศัพท์มาสอบถามผู้เสียหายทำให้ผู้เสียหายอับอายและได้มาแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว และผู้เสียหายเอง รู้แล้วว่าตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายต้องการให้ วัยรุ่นทั้งสองขอโทษ โดยมีผู้ปกครองของเด็กทั้งสองมารับรู้ด้วย รวมทั้งครูบาอาจารย์ของเด็กทั้งสอง และก็จะไม่ติดใจเอาความ 

ซึ่งทางตำรวจก็ได้ประสานไปยังผู้ปกครองของวัยุร่นทั้งสองแล้วให้มารับทราบการขอโทษ ของวัยรุ่นทั้งสอง ต่อหน้าผู้เสียหาย ส่วนคดี ก็คงว่ากันไปตามขั้นตอน ข้อหาวัยรุ่นทั้งสอง เป็นลหุโทษ ปรับไม่เกิน 500 บาท 

มีคลิป กดเลย https://www.facebook.com/photo.php?v=1412568245640619&set=vb.123597004516814&type=2&theater

http://www.khaosod.co.th