ปริมาณน้ำตาลที่กำหนดไว้ว่ากินแล้วไม่เป็นอันตรายอยู่ที่ 6 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งถือเป็นปริมาณที่น้อยเลยก็ว่าได้ เพราะแค่น้ำอัดลมกระป๋องเดียวก็ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 8 ช้อนชาแล้ว ดังนั้น คงไม่แปลกที่สาวๆ หลายคนจะคิดหันไป พึ่งพาความหวานจากแหล่งอื่นๆ แต่ลองฟังคำแนะนำจาก ศ.เกียรติคุณ พญ. วรรณี นิธิยานันท์ ดูสักหน่อยนะ
"น้ำผึ้ง" ก็เหมือนน้ำตาล น้ำผึ้งก็คือน้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลเหมือนกับที่มีอยู่ในผลไม้ทั่วไป ถึงแม้จะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้นเมื่อทำการตรวจวัด แต่อันตรายก็ยังมีอยู่ไม่แตกต่างจากการกินน้ำตาลทั่วไป ที่สำคัญไขมันสะสมที่มาจากน้ำตาลฟรักโทสส่วนเกินนั้น มักจะมากองอยู่ที่เอว ทำให้คุณอ้วนลงพุงนะ "น้ำตาลเทียม" หวานมากกว่า อ้วนน้อยกว่า น้ำตาลเทียมก็คือสารสังเคราะห์ที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลในปริมาณที่เท่ากัน แต่ให้พลังงานน้อยกว่าเยอะมาก แม้รสหวานที่ได้จะแปร่งๆ ไม่สะใจเท่าความหวานจากน้ำตาล แต่น้ำตาลเทียมก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนอยากหวานแบบไม่ต้องเจอเบาหวานหรือลดความอ้วน ชีวิตนี้อยู่ได้แม้ไม่หวาน จริงๆ แล้วแม้คุณจะไม่กินน้ำตาลหรืออะไรหวานๆ เข้าไปเลย ก็ไม่มีทางที่ระดับน้ำตาลจะต่ำจนเข้าสู่เกณฑ์อันตราย (ยกเว้นก็แต่ในกรณีที่คุณกินยาลดน้ำตาลในเลือด!) เพราะร่างกายของเราสามารถย่อยแป้งและไขมันที่สะสมเอาไว้มาเป็นน้ำตาลได้เสมอ ส่วนพวกอาการหงุดหงิดอารมณ์เสียเวลาที่ไม่ได้กินน้ำตาลนั้น ไม่ใช่เป็นเป็นเพราะน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะคุณ "เสพติดความหวาน" เข้าให้แล้วต่างหาก เมื่อพยายามเลิกหวาน งดหวานก็เลยมีอาการดังกล่าว...แต่จริงๆ แล้วลดหวานไม่อันตรายแน่นอน!