ถ้าถามหาสัตว์ที่กล้าหาญที่สุดในโลก คงจะเป็นตัวอะไรไปไม่ได้นอกจาก

"นกพิราบสื่อสาร" ฟังดูตลกแต่กว่าครึ่งหนึ่งของเหรียญดิกคินที่มอบให้

แก่บรรดาสัตว์ที่กล้าหาญทั้งหลาย ตกเป็นของเจ้านกพิราบทั้งสิ้น...

พิธีมอบเหรียญดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1943 ด้วยความคิดริเริ่มของนางมาเรีย

ดิกคิน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ป่วยแห่งสหราชอาณาจักร

โดยในระหว่างปี 1943-1949 ได้มีการมอบเหรียญดิกคิน 54 เหรียญให้แก่นกพิราบ

32 ตัว สุนัข 18 ตัว ม้า 3 ตัว และแมวอีก 1 ตัว

และได้มีการมอบเหรียญดังกล่าวให้กับสัตว์อีก 2-3 ตัว ที่น่าจดจำที่สุดคือสุนัขนำทาง

2 ตัว ที่พาเจ้าของเดินลงจากตึกสูงกว่า 70 ชั้นได้อย่างปลอดภัยจากโศกนาฏกรรมที่

อาคารเวิลล์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001

ในสงครามโลกครั้งที่ 2 นกพิราบสื่อสารได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในช่วงที่เกิดการ

โจมตีจนไม่อาจใช้งานช่องทางการสื่อสารอื่นๆได้ นกพิราบตัวแรกที่ได้รับเหรียญดิก

คินไปคือ วิงกี้ ซึ่งอยู่บนเครื่องบินที่ถูกยิงตก วิงกี้หลุดออกจากกรง และบินออกไปหา

เจ้าของที่สก็อตแลนด์ เจ้าของวิงกี้พอจะคาดคะเนคร่าวๆจากคราบน้ำมันและรอยเปียก

โชกของมันได้ว่ามันมาไกลแค่ไหน เมื่อนำข้อมูลนี้คาบไปให้คู่พิกัดสุดท้ายก่อนที่

เครื่องบินจะตกลูกเรือจึงปลอดภัย

ในอีกไม่กี่ปีให้หลัง นกพิราบชื่อ กุลสตาฟ ถูกปล่อยไปหานักข่าวสงครามชื่อ

มอนเทก เทย์เลอร์ มันเดินทางอย่างกล้าหาญกว่า 240 กิโลเมตร เพื่อยกพลขึ้นบก

ที่หาดนอร์มังดี กุลสตาฟจบชีวิตหลังสงครามเมื่อคนทำความสะอาดเผลอนั่งทับ

มันโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในปี 1942 บี.เอฟ. สกินเนอร์ นักวิทยาศาสตร์เชิงพฤติกรรม ได้เกิดความคิดเรื่องการ

ใช้นกพิราบที่ผ่านการฝึกให้เป็นตัวนำทางอาวุธ โดยฝึกนกพิราบให้จิกรูปภาพเรือเพื่อ

ให้ได้รับรางวัลเป็นอาหารตอบแทน จากนั้นนกพิราบ 3 ตัว ที่ผ่านการฝึกมาแล้วจะถูก

นำไปบรรจุไว้ที่จรวดปลายวิถีเพื่อปล่อยจรวดออกไป นกพิราบจะมองเห็นเรือผ่านทาง

หน้าต่าง เมื่อพวกมันจิกใส่หน้าต่างจะเป็นการกระตุ้นกลไกปรับเปลี่ยนทิศทางซึ่งเชื่อม

ต่อกับระบบนำทางของจรวดให้ทำงาน

ยิ่งเข้าใกล้เรือเท่าไหร่ ภาพบนหน้าจอก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น และนกพิราบก็จะยิ่งจิก

ถี่ขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนที่จะพุ่งชนเป้าหมายและถูกทำลายจนไม่เหลือซาก พวกมันจะถูก

โถมทับด้วยเมล็ดข้าวสารแสนอร่อยอย่างมีความสุขก่อนตาย (น่าสงสาร) ซึ่งระบบดัง

กล่าวใช้ได้ผลในห้องทดลอง แต่สุดท้ายทางกองทัพเรือก็ตัดสินใจไม่นำไปใช้จริง

การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีนำทางด้วยนกพิราบนี้ ไม่ได้เปล่าประโยชน์ไปเสีย

ทีเดียว เพราะกองทัพเรือป้องกันชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาได้ใช้นกพิราบมาช่วยนำทาง

ในการช่วยเหลือเฮลิคอปเตอร์ตกในทะเลโดยนกพิราบจะถูกฝึกให้จิกจุดสีส้มซึ่งหมาย

ความว่าสามารถนำพวกมันไปใช้ค้นหาเสื้อชูชีพสีส้มในท้องทะเลได้ เพราะสายตาของ

นกพิราบเฉียบคมกว่านักบินถึง 10 เท่า...

ที่มา : The Book of General Lgnorance