สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเตรียมออกกฎให้รถทะเบียนคู่-คี่ วิ่งสลับวันกัน เพื่อลดมลพิษในอากาศซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองหลวงแดนมังกร
ข่าวระบุว่า เนื่องจากกรุงปักกิ่ง มักจะประสบปัญหาอากาศเป็นพิษในช่วงระยะเวลาสั้นๆอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและการใช้รถยนต์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยประชากรในกรุงปักกิ่งที่มีอยู่ 20 ล้านคน มีมากกว่า 1 ใน 4 ที่มีรถเป็นของตัวเอง
แผนเพื่อควบคุมมลพิษดังกล่าวจะมีผลให้ เมื่อใดก็ตามที่มลพิษในอากาศคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน
รถยนต์ที่มีทะเบียนเลขคู่และเลขคี่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกห้ามวิ่งบนถนนในกรุงปักกิ่งสลับวันกัน ซึ่งแผนดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาและเตรียมที่จะนำมาบังคับใช้โดยหน่วยงานปกครองท้องถิ่นของกรุงปักกิ่งเร็วๆนี้
ข่าวระบุว่าประชาชนชาวจีนต่างมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าว
ซึ่งเคยมีบังคับใช้มาแล้วก่อนหน้านี้ แตกต่างกันออกไป บ้างก็ระบุว่ามาตรการดังกล่าวควรนำมาบังคับใช้อย่างถาวรขณะที่บางส่วนเห็นว่าควรหันไปปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดจำนวนรถยนต์บนถนน
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวซึ่งเป็นมาตรการที่เคยใช้ระหว่างที่กรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 2551
รวมถึงนำมาใช้อีกครั้งในปี 2554 จะเป็นการขยายข้อบังคับที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งห้ามไม่ให้ประชาชนนำรถยนต์มาวิ่งบนถนนในกรุงปักกิ่งในวันธรรมดา 1 วันต่อสัปดาห์ โดยจะมีการกำหนดตัวเลข 2 ตัวให้เป็นตัวเลขท้ายของทะเบียนรถที่ถูกห้ามไม่ให้วิ่งในแต่ละวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ อย่างไรก็ตามโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนยังไม่เป็นที่แน่ชัด