เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายอติรุจ ตันบุญเจริญ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำเลยที่ 1 และ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา จำเลยที่ 2 ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร เป็นรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ ของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย อายุ 30 ปี และ น.ส.อรสา เกิดทรัพย์ อายุ 30 ปี 2 สามีภรรยาชาว ต.ท่าไม้รวก ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยศาลพิพากษาจำคุก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วน น.ส.วิลสา ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวน จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน
ด้านนายสว่าง นุ่มจุ้ย ผู้เป็นพ่อ ได้มาร่วมสอบคำพิพากษาและยื่นหนังสือขอคัดค้านประกันตัว กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ศาลให้ความยุติธรรมกับครอบครัว แม้ว่าทุกวันนี้จะยังหาร่างของลูกชายและลูกสะไภ้ไม่เจอ ส่วนการยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นคนมีอิทธิพลจึงกังวลว่าจะไปทำลายหลักฐานหรือหลบหนี
สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2555 นายสว่าง หรือค่อม นุ่มจุ้ย เจ้าของไร่สับปะรดใน จ.เพชรบุรี และ น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาว เจ้าหน้าที่สถิติ ระดับ 3 โรงพยาบาลตำรวจ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ว่าพบรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา ของนายสามารถ กับ น.ส.อรษา ซึ่งเป็นบุตรชายและสะใภ้ ที่หายตัวไปทั้งคนทั้งรถนานกว่า 3 ปี ที่บ้านร้างของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี
ต่อมามีการสืบสวนขยายผลไปค้นบ้านพักในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ในกรุงเทพฯ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก นอกจากนี้ทางการสืบสวนยังพบว่ามีแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในการดูแลของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่เข้าเมืองโดยมิได้รับอนุญาตจำนวนหลายคน และจากการขุดบริเวณไร่หลังบ้านที่ ต.กลัดหลวง พบโครงกระดูกจำนวน 4 โครงถูกฝังอยู่ บางโครงมีร่องรอยถูกกระสุนปืนที่กะโหลกศีรษะ ซึ่งเมื่อตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ แล้วพบว่าเป็นโครงกระดูกของ นายอิต้า แรงงานชาวพม่าที่สูญหายไป ทั้งยังพบว่ามีการทารุณ แรงงานชาวพม่า หลายคนทำงานโดยมิได้รับค่าตอบแทน
จากนั้น พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกจับกุมตัวได้ที่ปึกเตียนวิลล่า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี และศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 56 อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีอาชีพและที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เมื่อถูกกล่าวหาก็เข้ามอบตัวสู้คดี โดยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แสดงถึงความพร้อมในอันที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบ จึงสมควรให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีในชั้นพิจารณาได้อย่างเต็มที่ ตีราคาประกันคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา 3 ล้านบาท คดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ และ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ คดีละ 5 แสนบาท
ขอขอบคุณภาพจาก INN