ชาวบ้านยิ้ม! หนุ่มใหญ่พิษณุโลกพลิกโฉมเป็น "จ่าเฉย" ยืนนิ่งเป็นหุ่น-คอยโบกรถแก้ปัญหาจราจร ตำรวจเตือน ช่วยเหลือได้ แต่อย่าแต่งตัวเหมือนตำรวจ
เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบริเวณตลาดบ้านคลอง หรือ ตลาดเทศบาล 5 เขตเทศบาลนครพิษณุโลก ต่างสงสัยและประหลาดใจกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งตัวเครื่องแบบตำรวจ มาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตลอดทุกช่วงเย็น โดยมีท่าประจำคือ ยืนนิ่งทำท่าตะเบ๊ะ คล้ายกับหุ่น "จ่าเฉย" อยู่บริเวณถนนทางออกจากตลาด จนกลายเป็นที่กล่าวถึงของชาวพิษณุโลก
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายชูชาติ ใจโอบอ้อม อายุ 49 ปี ชาวเมืองพิษณุโลก เป็นตำรวจอาสาและแต่งตัวเครื่องแบบตำรวจมาทำหน้านี้โบกรถบริเวณตลาดกว่า 3 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ เมื่อ 4-5 ปีก่อน นายชูชาติ เคยโบกรถแบบนี้ที่บริเวณโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก แต่ก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาทำหน้านี้แทน ก่อนที่ นายสมเกียรติ แสงสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก จะชักชวนให้มาโบกรถที่บริเวณตลาดดังกล่าว
นายชูชาติ ยังเปิดเผยอีกว่า รู้สึกชอบที่ได้บริการประชาชน แม้ว่าอาชีพหลักจะเป็นช่างตัดผม แต่พอช่วงเย็นก็จะปิดร้านและออกมาโบกรถช่วยบริเวณตลาดบ้านคลองที่มีผู้คนมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก เมื่อการจราจรเบาบางลง จะเข้าไปยืนตัวนิ่ง ทำท่าตะเบ๊ะ อยู่ถนนทางออกตลาด ยืนนื่งๆ เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง จนมีคนสงสัยว่าเป็นคนหรือหุ่น ทำให้คนที่ผ่านมาไปผ่านมาได้ชะลอความเร็ว การจราจรสลับเปลี่ยนได้คล่องตัว ทั้งยังสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนด้วย
อย่างไรก็ตาม การแต่งกายของนายชูชาติ ซึ่งแต่งคล้ายเครื่องแบบตำรวจ เคยได้รับการตักเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น เนื่องจากจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด นายชูชาติ บอกว่า เคยมีตำรวจมาเข้าพบและขอให้ปรับปรุงการแต่งกาย อย่าให้เหมือนตำรวจเกินไป โดยเฉพาะหมวกตราโล่ ปลอกแขน ซึ่งก็น้อมรับไปปฏิบัติ เพราะไม่อยากทำผิดกฎ และไม่อยากให้ความหวังดีไปสร้างความเสื่อมเสียให้วงการตำรวจเช่นเดียวกัน
ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.ธีรเดช แจ่มแจ้ง รองผู้กำกับจราจร สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้สั่งให้สายตรวจจราจรไปสอบแล้วว่า นายชูชาติ เป็น อส ตร.จริงหรือไม่ พร้อมกับตักเตือนเพราะแต่งตัวคล้ายตำรวจ ซึ่งหากจะทำหน้าที่นี้ต้องไปแต่งเป็นสีกากี และห้ามใส่หมวกตราโล่ ทั้งนี้ หากเกิดรถอุบัติเหตุระหว่างการโบกรถ อาจจะทำให้เกิดการฟ้องร้อง ไม่มีกฎหมายรองรับ ในส่วนตัวก็ยอมรับว่าเป็นงานช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่จะต้องไม่ใส่เครื่องแบบเหมือนตำรวจ
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก สำนักข่าวพิษณุโลกฮอตนิวส์