ภายในมดลูกของคนเรามีลักษณะเป็นช่องว่างที่เรียกว่า โพรงมดลูกและมีเยื่อบางๆ บุหรือคลุมผนังของโพรงมดลูกอยู่จนทั่วคล้ายกับผ้ากำมะหยี่ที่บุอยู่ภายในกล่องซึ่งเยื่อดังกล่าวก็คือ เยื่อบุโพรงมดลูก นั่นเอง
เมื่อมีการตั้งครรภ์ ตัวอ่อนจะมีการฝังตัวอยู่ภายในเยื่อบุโพรงมดลูกดังกล่าวแล้วค่อยๆ โตขึ้นจนกลายเป็นตัวเด็กซึ่งเมื่อมีขนาดใหญ่มากก็จะมาลอยอยู่ในถุงน้ำคร่ำซึ่งอยู่ภายในโพรงมดลูก และยึดติดแน่นกับเยื่อบุโพรงมดลูก
ภายหลังการคลอด เยื่อบุโพรงมดลูกจะมีการฉีกขาดและหลุดลอกออกมา ซึ่งจะทำให้มีเลือดออกมาร่วมด้วย เยื่อบุโพรงมดลูกและเลือดที่ปนกันไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอดเรียกว่า น้ำคาวปลา นั่นเอง
น้ำคาวปลา
ระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด เลือดที่ไหลปนกับเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกออกมาจะมีปริมาณค่อนข้างมาก จึงเห็นน้ำคาวปลาในระยะนี้มีสีค่อนข้างแดง หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันหลังคลอด เลือดจะออกน้อยลง ทำให้น้ำคาวปลามีสีจางลง ภายหลังคลอดประมาณ 10 วัน น้ำคาวปลาจะออกน้อยลงและภายในช่องคลอด เริ่มมีการสร้างตกขาวออกมาปนกับน้ำคาวปลา ทำให้น้ำคาวปลาในระยะนี้มีสีขาวปนเหลืองและเหนียวข้น
หลังจากระยะนี้น้ำคาวปลาก็จะหมด แต่จะมีตกขาวแทนซึ่งเป็นกลไกการเปลี่ยนแปลง ภายหลังคลอดตามปกติของคุณแม่นั่นเอง ในคุณแม่ที่ได้รับการผ่าตัดคลอด คุณหมอจะเช็ดทำความสะอาดภายในมดลูกขณะผ่าตัดคลอดให้ด้วย ดังนั้นคุณแม่ที่ได้รับการผ่าตัดคลอดอาจจะมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของน้ำคาวปลาในระยะเวลาที่สั้นขึ้น อาจจะไม่ถึง 10 วัน บางคนเพียงแค่ 4-5 วัน น้ำคาวปลาก็อาจจะหายแล้วก็ได้
น้ำคาวปลาผิดปกติ
ลักษณะของน้ำคาวปลาที่ไม่เป็นดังที่กล่าวข้างต้นถือว่าเป็นน้ำคาวปลาที่ผิดปกติ ซึ่งที่พบได้บ่อยๆ มี 2 ชนิด คือ น้ำคาวปลาที่เคยจางลงแล้วกลับมามีสีแดงใหม่ และน้ำคาวปลาที่มีกลิ่นเหม็น
น้ำคาวปลาที่กลับมามีสีแดงใหม่
ส่วนมากแล้วเกิดจากการที่มีเศษรกค้างอยู่ในมดลูกหรือมีการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้น้ำคาวปลา กลับมามีสีแดงใหม่หลังคลอด และเมื่อให้การรักษาโดยการขูดมดลูกแล้ว ปัญหาก็หายไป
สำหรับปัญหาว่าทำไมบางคนรกถึงค้างในมดลูกไม่ยอมคลอดเหมือนคนอื่นๆ สาเหตุที่พบบ่อยๆ ก็คือ การที่คุณแม่เคยมีการอักเสบติดเชื้อในมดลูกมาก่อน หรือเคยขูดมดลูกมาหลายครั้ง กรณีก็อาจทำให้ผนังของโพรงมดลูกไม่เรียบ มีแผล ทำให้รกเกาะติดแล้วลอกตัวได้ไม่ดี ทำให้มีปัญหารกค้าง
น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
ปกติน้ำคาวปลาจะมีกลิ่นคาวเลือด แต่ถ้ามีกลิ่นเหม็นแสดงว่าน่าจะมีการติดเชื้อในมดลูก สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อน่าจะเกิดจากการที่ปล่อยให้น้ำเดินเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคซึ่งอยู่บริเวณช่องคลอดเข้าไปในมดลูกได้ นอกจากนี้การตรวจภายในเป็นระยะๆ เพื่อดูว่าการเจ็บครรภ์คลอดของคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าตรวจบ่อยครั้งก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ยาขับน้ำคาวปลา...จำเป็นไหม ?
ในอดีตมีความเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดถ้าน้ำคาวปลาออกมามากๆ ถึงจะดี เพราะเชื่อว่าจะได้ขับเลือดเสียออกจากร่างกายนั่นเอง ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดจึงมักได้รับคำแนะนำ ให้รับประทานยาขับน้ำคาวปลาซึ่งมักเป็นยาดองเหล้า ความเชื่อดังกล่าวผิดครับ!!! คุณแม่ที่รับประทานยาดองเหล้ามากๆ ถ้าให้ลูกดูดนม ลูกจะได้รับแอลกอฮอล์ด้วย ถ้าดูดมากๆ ลูกก็จะเมาเหล้าไปด้วย
ในปัจจุบันหลังจากเด็กและรกคลอดแล้ว คุณหมอจะฉีดยาหรือให้ยาทางหลอดเลือด เพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี ก็จะเป็นการขับน้ำคาวปลาได้มากพอแล้ว เพราะฉะนั้นการกินยาขับน้ำคาวปลาจึงไม่จำเป็น ยิ่งในรายที่ผ่าคลอด คุณหมอจะทำความสะอาดในโพรงมดลูกให้ด้วยดังกล่าวแล้ว น้ำคาวปลาของคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก การรับประทานยาขับน้ำคาวปลาจึงไม่จำเป็นแต่อย่างใด