เผยเด็กไทยติดพนันกว่า 2.8 ล้านคน ไพ่-หวย-บอล-บิงโก ยอดฮิต

 วานนี้ (10 ตุลาคม 2556) นายอนุสรณ์ ไกรวัฒนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้กล่าวปฐากถาบนเวทีนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน 2556 ในหัวข้อ "ความท้าทายในการจัดการสำหรับบริบทของสังคมไทย" ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กและเยาวชนเล่นการพนันมากขึ้น เกิดมาจากพฤติกรรมของวัยรุ่นที่ชอบความตื่นเต้น และการเลียนแบบเพื่อนเพื่อเข้าสังคม ซึ่งที่ผ่านมาหลายหน่วยงานพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่มีข้อจำกัดในหลายเรื่อง เช่น ขาดเจ้าภาพในการดำเนินการ รวมถึงการตีความทางกฎหมายของแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกัน

          แต่ทั้งนี้ ในเบื้องต้น นางปวีณา หงสกุล รมว.พม. มีแนวทางที่จะสร้างคอมเพล็กซ์ต้นแบบในการสร้างกิจกรรม และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสีขาวให้กับเด็กและเยาวชน โดยจะนำร่องในพื้นที่ กทม. ก่อน เพื่อเป็นการแก้ไขให้เด็กห่างไกลจากการพนัน

          ขณะที่ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เผยผลสำรวจว่า พบข้อมูลเด็กและเยาวชนเริ่มเล่นการพนันตั้งแต่อายุยังน้อยคือ 7 ขวบ โดยมีเด็กและเยาวชนที่เล่นการพนันครั้งแรก อายุไม่เกิน 24 ปี ร้อยละ 63 หรือราว 2.6 ล้านคนของเด็กและเยาวชน

          ส่วนการพนันที่ชอบเล่นมากที่สุด อันดับ 1 คือหวยใต้ดิน เล่นมากถึง 1 ล้านคน รองลงมาคือสลากกินแบ่งรัฐบาล 9 แสนคน และพนันในบ่อน 7 แสนคน รวมไปถึงการเล่นพนันฟุตบอลที่เด็กและเยาวชนเล่นถึง 4 แสนคน นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจในปี 2556 เรื่องสถานการณ์การเล่นการพนันของนักศึกษาทั้ง กทม. และต่างจังหวัด พบว่ามีนักศึกษาเล่นมากถึงร้อยละ 29.2

          สำหรับการพนันที่นักศึกษาเล่นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

          1. ไพ่
          2. บิงโก
          3. หวยใต้ดิน
          4. สลากกินแบ่งรัฐบาล
          5. การพนันฟุตบอล

          โดยเฉพาะการพนันฟุตบอลนั้น นักศึกษาที่ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่า เริ่มเล่นมาแล้วเฉลี่ย 3 ปี จำนวนเงินเฉลี่อยู่ที่ 822 บาทต่อคู่ เล่นต่อสัปดาห์เป็นเงิน  2,215 บาท และเล่นต่อคู่สูงสุด 4,017 บาท

          นอกจากนี้ นักศึกษาที่เล่นการพนันฟุตบอลเผยว่า เล่นผ่านเว็บไซต์ 31 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช่องทางที่นักศึกษาใช้ในการรับข้อมูลเพื่อศึกษาการเล่นการพนันฟุตบอลคือ สื่อออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ และสื่อหนังสือกีฬา โดยผลกระทบจากการพนันฟุตบอลทำให้นักศึกษาประสบปัญหาจากการพนันร้อยละ 30 ประสบปัญหาทางการเงินจากการพนันร้อยละ 11 และในจำนวนนี้แก้ปัญหาโดยการกู้ยืมเงินถึงร้อยละ 69

          ขณะที่ ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะเอนก นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน เสนอแนวทางการแก้ปัญหาการพนันในประเทศไทย 3 ระยะ ดังต่อไปนี้

          1. ระยะเร่งด่วน ควรการสำรวจปัญหาการพนันของเด็กและเยาวชนไทยในระดับชาติ และจัดทำชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับปัญหาการพนันในสังคม รวมถึงสร้างพื้นที่สีขาวที่เป็นประโยชน์กับเด็ก และเยาวชน

          2. ระยะกลาง รัฐบาลจะต้องกำหนดให้ปัญหาการพนันเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมจัดตั้งกองทุนอิสระเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง รวมไปถึงต้องปรับปรุงและแก้ไขข้อบังคับกฎหมาย กำกับการพนันออนไลน์ให้ชัดเจน

          3. ระยะยาว ควรมีการสนับสนุนการทำงานของกองทุนอิสระ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอยู่ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อแก้ปัญหา ป้องกัน บำบัด และเยียวยาผู้ติดพนัน "เราอาจนำแนวทางของประเทศนิวซีแลนด์มาใช้ในการแก้ปัญหาพนัน ซึ่งที่นั่นมีบ่อนพนันถูกกฎหมาย เขามีการแก้กฎหมายการพนัน ปี ค.ศ. 2013 โดยกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ที่จะเล่นพนันถูกกฎหมาย ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปี หากผู้ประกอบการปล่อยให้เด็กอายุน้อยกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการจะมีความผิดทางอาญา"

          ส่วนทางด้าน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เผยว่า การเล่นพนันถือเป็นบ่อเกิดของการเกิดทุจริตคอร์รัปชั่นตามา และปัญหาการของการพนันนั้นไม่ได้กระทบแค่คนเดียว แต่จะกระทบกับผู้คนหลากหลาย โดยเฉพาะคนในครอบครัวของผู้เล่นพนัน และการพนันในระดับชาติจะเกี่ยวโยงกับการฟอกเงิน ทั้งนี้ การเล่นพนันระดับประชาชนนั้น ผลสำรวจจากการที่ได้ลงพื้นที่พบว่าผู้หญิงจะชอบเล่นไพ่ โดยเล่นเป็นวงเล็ก ๆ ในจำนวนเงินไม่มาก ครั้งละ 30-40 บาท ส่วนผู้ชายชอบเล่นม้า เล่นครั้งเดียวแต่เล่นจนหมดตัว

 
 
 
 
อ้างอิง  ข่าวจาก Kapook.com
Credit: http://entertainment.goosiam.com/hotnews/html/0037327.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...