วิชา อยู่ยงคงกระพัน มีจริงไหม

 

 

 

 

 

ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นที่พูดถึงกันอย่างต่อ เนื่อง      สำหรับวิชา อยู่ยงคงกระพัน ซึ่งเป็น      วิชาที่ทำให้ร่างกายสามารถทนทานต่อคมอาวุธทั้งหลาย ได้      แต่วิชานี้จะมีจริงหรือไม่ หรือมีที่มาอย่างไร หาคำตอบได้จากข้อมูลต่อไปนี้

คงกระพัน เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์อย่างหนึ่ง      สันนิษฐาน ว่า มีที่มาจากคำว่า “กระบัล” ในภาษามลายู แปลว่า      “คงทนต่อศัตราวุธ” ดังที่มีสำนวนว่า “อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า”      วิชาคงกระพันชาตรีจึงหมายถึง      “ วิชาที่ทำให้ร่างกายสามารถทนทานต่อคมอาวุธทั้งหลายได้”

สมัยโบราณเป็นวิชาที่ชายไทยเล่าเรียนกันมาก      เนื่องจากต้องมีหน้าที่ เป็นทหารออกรบป้องกันราชอาณาจักร      และการรบในสมัยโบราณเป็นการรบแบบ ประชิดตัว      จึงจำเป็นต้องเล่าเรียนคาถาอาคมที่จะช่วยปกป้องตนเองให้ ปลอดภัยจากคมหอกคม ดาบ ความเชื่อเรื่อง อยู่ยงคงกระพัน      ของไทยโบราณมีหลายวิธี อาทิ พกพาเครื่องราง บริกรรมคาถาอาคม สักยันต์      เสกอาหารกิน เสกน้ำมันทาตัว เป็นต้น

คงกระพัน จะต่างจาก ชาตรี กล่าวคือ      คงกระพันจะเป็นการทำให้เนื้อหนังร่างกายคงทนต่ออาวุธตลอดจน วัตถุต่างๆ      ที่มาทำร้าย      แต่หากอาวุธนั้นมีอันตรายมากหรือมี น้ำหนักมากก็อาจทำให้เจ็บปวดสาหัสหรือ อวัยวะภายในบอบช้ำได้

ส่วน ชาตรี จะเป็นวิชาที่ป้องกันคมอาวุธด้วย      และทำให้ผู้ถูกทำร้ายไม่รู้สึกเจ็บ ปวดแต่อย่างใด      เป็นวิชาที่ทำให้ตัวเบาและวัตถุสิ่งของที่มากระทบตัวเบา ไปหมด      แม้เป็นของแข็งอย่างหินทุ่มมาทำร้ายก็เชื่อว่าจะรู้สึกเหมือนถูก ทุบด้วยหมอน นุ่นเท่านั้น วิชาในหมวด ชาตรี ที่รู้จักกันดีคือ วิชาเก้าเฮ      ของสำนักวัดพระญาติการาม อยุธยา ซึ่งใช้นิ้วมือชักยันต์ลงไปบนส่วนต่างๆ      ของร่างกาย วิชาในหมวดเดียวกับคงกระพันคือ ชาตรี แคล้วคลาด และ มหาอุด      ซึ่งเป็นการใช้อำนาจทางจิตในวิธีต่างๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากศาสตราวุธ

ผู้ศึกษาเล่าเรียนวิชา อยู่ยงคงกระพัน จะต้องปฏิบัติตนตามข้อห้ามของวิชาที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างเคร่งครัด เป็นต้นว่า
ต้องสวดมนต์ไหว้พระรำลึกคุณพระรัตนตรัยเป็นนิตย์
ต้องหมั่นปลุกตัวด้วยคาถาสม่ำเสมอ
ห้ามผิดลูกเมียเขา
ห้ามมุดลอดในที่ไม่สมควร
ห้ามถ่มน้ำลายลงที่สกปรก
ห้ามด่าบุพการี
ห้ามกินอาหารหลายชนิด เช่น หัวปลี บวบ น้ำเต้า
ห้ามกินของเหลือเดน
ห้ามกินของงานศพ
ห้ามเปิดปากเวลาถ่ายหนักถ่ายเบา ฯลฯ

กล่าวโดยสรุปคือต้องถือศีล สำรวมกาย วาจา ใจ      และต้องปฏิบัติสมาธิภาวนาอีกด้วย ในอดีตผู้ที่เชื่อ      และเล่าเรียนคาถาอาคมมักถือปฏิบัติอย่างเคร่ง ครัด      เนื่องจากเชื่อว่าหากปฏิบัติไม่ได้ความ อยู่ยงคงกระพัน จะเสื่อมคลายไป      ปัจจุบันความเชื่อเช่นนี้ก็ยังพอมีปรากฏให้เห็นอยู่ บ้าง

 

................

 

ขอขอบคุณเวป  เซลล์กุมาร

http://group.wunjun.com/salekumarn

ที่มา: http://group.wunjun.com/salekumarn/topic/502471-15633
Credit: http://men.postjung.com/713389.html
12 ต.ค. 56 เวลา 23:16 3,219 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...