1. มะนาว
ช่วยให้ความเป็นกรด-ด่างของร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลและคงที่เป็นการสนับสนุนแบคทีเรียดี ๆ ให้สามารถกำจัดสารพิษต่าง ๆ ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
ลอง ! บีบมะนาวในน้ำร้อนดื่มเป็นอย่างแรกหลังตื่นนอนตอนเช้า แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย
2. ทับทิม
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อฟลาโวนอยด์ แถมยังมีวิตามินเอ ซี และอี กรดโฟลิก ตลอดจนธาตุเหล็ก ที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย กินบ่อย ๆ นอกจากเซลล์จะสดชื่นทั่วร่างแล้ว ยังได้ผิวสวย ๆ ตามมาด้วยนะ
3. ผักใบเขียว
ผักโขม บรอกโคลี และผักเขียว ๆ ทั้งหลาย ไม่เพียงแต่มีไฟเบอร์ที่ช่วยกำจัดสารพิษในลำไส้ แต่ยังมีวิตามินเอ ซี และอี ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน และแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อกระบวนการดีท็อกซ์ตามธรรมชาติของร่างกายด้วย
ผักจะคงคุณค่าอยู่ได้ครบถ้วนหากกินสด ๆ หรือผ่านความร้อนแค่เพียงเล็กน้อย วันไหนอยากดีท็อกซ์ก็ลองทำสลัดจากผักใบเขียวที่คุณชอบเสริมประสิทธิภาพล้างพิษด้วยหัวหอมใหญ่ แครอท ท็อปอัพด้วยอัลมอนด์สักเล็กน้อย แล้วราดน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่น
4. ชาขาว
น้ำชาจากยอดอ่อนของใบชานี้มีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อโพลีฟีนอลที่ช่วยกำจัดสารพิษทั่วร่างกายได้อย่างเริ่ด และยังมีคาเตชิน สารต้านอนุมูลอิสระอีกกลุ่มหนึ่งที่ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้
ดื่มชา...ไม่ใช่น้ำหวาน ชาที่ทรงคุณประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นชาขาว หรือชาเขียว ควรเป็นชาที่ชงจากใบชา (ถ้าเป็นออร์แกนิกยิ่งดี) และไม่มีการปรุงแต่งกลิ่น สี หรือรสชาติใด ๆ
5. กระเทียม
ไม่เพียงแต่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยสร้างสารพิษได้ดีเท่านั้น ยังมีอัลลิซินที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย สามารถปราบแบคทีเรียตัวร้ายและเชื้อไวรัสทั้งหลาย นอกจากนี้ กระเทียมยังขึ้นชื่อในการลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตด้วยนะ
ถ้าอยากได้คุณค่าที่กล่าวมา ต้องกินกระเทีบมแบบสด ๆ ในอาหารไทยหลายอย่าง กระเทียมเป็นเครื่องเคียงชั้นเลิศที่ช่วยเสริมรสอาหารให้เด่นขึ้น
6. ข้าวกล้อง
ที่จริงไม่ว่าอยากดีท็อกซ์หรือไม่ คุณก็ควรเปลี่ยนจากข้าวขาวธรรมดามากินข้าวกล้องได้แล้ว ประโยชน์มากกว่าเห็น ๆ ส่วนในเรื่องการล้างพิษ วิตามินบี โปรตีน แมงกานีส ซีเนียม แมกนีเซียม ตลอดจนไฟเบอร์ในข้าวกล้องล้วนแล้วแต่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายขจัดสารพิษออกไปได้ดีขึ้นทั้งนั้น
7. ขมิ้น
เมื่อนำมากิน สารเคอร์คิวมินในขมิ้นจะเข้าเร่งกระบวนการกำจัดสารพิษของร่างกายให้เร็วขึ้น และช่วยลดการอักเสบได้ด้วย อาหารจานเด็ดที่มีขมิ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญก็คือแกงกะหรี่ มัสมั่น ผัดผงกะหรี่ เลือกกินเมนูพวกนี้ เติมผักใบเขียวและถั่วลงไปสักหน่อย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวกล้องร้อน ๆ ก็สบายอิ่มท้องแบบเฮลตี้ ๆ
8. น้ำเปล่า
น้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70% ของร่างกาย ดังนั้น ถ้าอยากให้ร่างกายกำจัดสารพิษคั่งค้างได้เต็มที่ คุณก็ต้องดื่มน้ำสะอาด ๆ ให้เต็มที่เหมือนกัน
อย่าลืม ! ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน และหากออกกำลังกายก็ต้องดื่มน้ำให้มากขึ้น
แร่ธาตุกำมะถันในกรดอะมิโนที่อยู่ในหัวหอมจะเข้าไปละลายสารพิษทำให้ถูกขับออกจากร่างกายได้ง่ายและเร็วขึ้น ทั้งยังมีสารตั้งต้นของกลูตาไธโอนที่เป็นตัวพาสารพิษออกจากร่างกายด้วย
10. ส้มและส้มโอ
วิตามินซีที่มีอยู่มากในผลไม้ทั้งสองชนิดนี้เป็นตัวช่วยสำคัญของการกำจัดสารพิษ และยังมีฤทธิ์กระตุ้นระบบเผาผลาญด้วย
กินสด...ดีกว่าน้ำ : น้ำคั้นจากผลไม้เป็นแหล่งน้ำตาลที่เพิ่มปริมาณไขมันรอบเอวคุณให้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญวิตามินซียังถูกทำลายได้ง่ายด้วยแสงแดดนะ ถ้าคั้นน้ำมา กว่าคุณจะได้ดื่ม วิตามินจะยังเหลือเท่าไรกัน
11. คะน้า
นอกจากจะเป็นแหล่งของไฟเบอร์และโฟเลตแล้ว ยังเป็นที่อยู่ของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีฤทธิ์ช่วยดีท็อกซ์อย่างวิตามินเอ บี 6 ซี เค แคลเซียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยรักษาความสมดุลความเป็นกรด-ด่างในร่างกายด้วย
12. กะหล่ำปลี
ได้ประโยชน์จากซัลเฟอร์ ไอโอดีน กะหล่ำปลีโดดเด่นมากในเรื่องของการทำความสะอาดร่างกาย และช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญ
13. เมล็ดฟักทอง
อุดมไปด้วยสังกะสี แมงกานีส แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส แร่ธาตุที่สำคัญต่อกระบวนการล้างสารพิษของร่างกายล้วน ๆ
14. ชาเขียว
ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสารคาเตชินช่วยเร่งการทำงานของตับรวมทั้งเพิ่มการผลิตเอนไซม์ เพื่อขจัดของเสียในร่างกายด้วย
ประโยชน์สองต่อ : หั่นตะไคร้หรือขิงใส่ลงไปสักหน่อย พลังดีท็อกซ์จะเพิ่มขึ้น
15. สับปะรด
เป็นแหล่งของแอนตี้ออกซิแดนท์อย่างวิตามินบีและซี รวมถึงแร่ธาตุเพื่อการดีท็อกซ์อย่างทองแดงและแมงกานีส ถ้าคุณชอบผลไม้ กินสับปะรดล้างพิษก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
16. แอปเปิล
สูตรดีท็อกซ์บางสูตรแนะนำให้คุณกินผลไม้ชนิดนี้อย่างเดียวทั้งวันด้วยซ้ำ นั่นก็เป็นเพราะแอปเปิลอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินอี วิตามินซี และกรดโฟลิก พ่วงท้ายด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ตามธรรมชาติอีกเพียบ
17. อะโวคาโด
นอกจากจะเป็นแหล่งของไขมันดีแล้ว อะโวคาโดยังมีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้และละลายน้ำไม่ได้อยู่เยอะมาก เป็นตัวช่วยที่ทำความสะอาดลำไส้ได้ชั้นเลิศ
18. งา
เมล็ดจิ๋ว ๆ พวกนี้แจ๋วสุด ๆ เพราะอุดมไปด้วยสารไฟโตนิวเทรียนต์ ฟลาโวนอยด์ วิตามินต่าง ๆ และไฟเบอร์
19. แครอท
ถ้าคุณอยากจิบน้ำผักผลไม้เพื่อดีท็อกซ์ล่ะก็ ต้องเลือกน้ำแครอทนี่แหละ เพราะมีน้ำตาลไม่มากเท่าพวกน้ำผลไม้ แต่วิตามิน แร่ธาตุ และก็สารต้านอนุมูลอิสระเพียบ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน
20. อัลมอนด์
แค่ 70 กรัมที่คุณกินเข้าไป คุณก็จะได้วิตามินอี้เตมครบปริมาณที่ต้องการต่อวัน แถมยังมีไรโบฟลาวิน ไธอามีน ไนอะซิน กรดแพนโทเธอิก โฟเลต และแร่ธาตุเพื่อการดีท็อกซ์อื่น ๆ แพ็กติดมาด้วยเป็นกระบุง
Tip : ถั่วต่าง ๆ เมล็ดฟักทอง และอัลมอนด์ควรเป็นแบบที่ไม่มีเกลือ น้ำตาล หรือการปรุงแต่งรสชาติใด ๆ จะกินแบบอบเป็นสแน็กนำไปปรุงอาหาร หรือโรยลงในพวกสลัด ซีเรียลก็ได้
21. พริก
รสชาติเผ็ด ๆ แบบนี้ แต่พริกมีวิตามินซีสูงมาก สูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้ทั้งหมดก็ว่าได้ และยังมีสรรพคุณกระตุ้นเมตาบอลิซึมและกระบวนการขับสารพิษของร่างกายด้วย
22. หน่อไม้ฝรั่ง
มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้กระบวนการกำจัดสารพิษทางไตของร่างกายเร็วขึ้น และยังลดอาการบวมน้ำได้อีกด้วย
23. ขิง
เป็นตัวเร่งของทุกสิ่ง เมื่อสูดดมกลิ่นของขิงจะช่วยให้คุณตื่นตัว และเมื่อกินเข้าไปแล้ว ขิงก็จะช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึมและเร่งกระบวนการขับของเสียตามธรรมชาติของร่างกายให้เร็วขึ้น
24. มะละกอ
มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีสูงกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันถึง 300% และยังมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างเฮลตี้ด้วย
25. กะเพรา
เห็นใบเล็ก ๆ แบบนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนท์เพียบ ! และสารยูจินอลในใบยังมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียดได้ด้วย
26. โยเกิร์ต
จุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตในโยเกิร์ตจะเข้าไปช่วยเสริมแรงแบคทีเรียดี ๆ ที่มีอยู่ในลำไส้ในการย่อยอาหารต่าง ๆ
27. ถั่วงอก
ต้นอ่อนของถั่วนี่แหละสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพรอบด้าน รวมถึงสรรพคุณในการล้างพิษด้วย เพราะมีวิตามินอยู่ครบทุกชนิด พร้อมด้วยกรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ครบ !
28. ตะไคร้
อีกหนึ่งอาหารดีท็อกซ์ที่ห้ามมองข้าม งานวิจัยพบว่า ตะไคร้สามารถลดอาการผิดปกติในลำไส้ได้มากกว่า 60%