เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คราบสกปรกบนเสื้อผ้าที่ถือว่ากำจัดยากสุด ๆ อีกคราบหนึ่งก็คือ คราบหมึกพิมพ์ ที่ถ้าใครเผลอทำหมึกหกใส่เสื้อก็แทบจะถอดใจทิ้งเสื้อผ้าตัวนั้นไปเลย แม้กระทั่งคราบหมึกปากกาขีดนิดเดียวบนเสื้อผ้าก็ต้องซักกันตั้งหลายรอบกว่าคราบจะจางหายไป แต่ถ้าอยากจะขจัดคราบหมึกติดเสื้อผ้าหรือผ้าปูโต๊ะให้หมดจดแบบง่าย ๆ ก็มาลองวิธีขจัดคราบหมึกตามนี้กันเลย
คำแนะนำก่อนลงมือพิชิตคราบหมึก
ก่อนจะลงมือขจัดคราบหมึก ให้คุณหาผ้าสะอาดที่มีความหนานิดหน่อยมารองด้านในเสื้อผ้าเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันคราบหมึกซึมลงไปเปื้อนเสื้อผ้าอีกด้านหนึ่ง อีกทั้งเมื่อทำความสะอาดคราบหมึกเสร็จแล้ว ก็ควรพลิกเสื้ออีกด้านหนึ่งมาสำรวจให้แน่ใจว่าไม่มีคราบหมึกซึมลงไปเปื้อนแน่นอน อ้อ ! ก่อนจะใช้น้ำยาอะไรขจัดคราบหมึกบนเสื้อผ้าก็ตาม ขอให้คุณทดสอบความรุนแรงกับปลายผ้าด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันเสื้อผ้าชำรุดเสียหายนะคะ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มลงมือกันเลย
1. น้ำส้มสายชูกับบอแรกซ์
ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ นมสด 2 ช้อนโต๊ะ ผงบอแรกซ์และน้ำมะนาวอย่างละ 1 ช้อนชา คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วนำไปป้ายลงบนคราบเปื้อน ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเย็บค่อย ๆ เช็ดคราบหมึกที่ติดเสื้อผ้าอยู่จนกว่าคราบเปื้อนจะหมดไป
2. สเปรย์แต่งผม
ถ้าคุณมีสเปรย์จัดแต่งทรงผมอยู่ในบ้าน จะใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมฉีดลงบนคราบเปื้อนให้ท่วม ปล่อยทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยใช้ฟองน้ำชุบน้ำเย็นมาซับคราบออกไปจนหมดก็ได้ วิธีนี้อาจจะต้องทำซ้ำกันสัก 2-3 ครั้ง จนกว่าคราบจะหมดนะคะ
3. น้ำยาล้างเล็บ
บ้านไหนที่มีน้ำยาล้างเล็บ ชนิดที่ไม่ผสมสี และไม่มีกลิ่น อาจจะลองทดสอบน้ำยาล้างเล็บกับปลายผ้าก่อน ถ้าไม่เกิดความเสียหายกับผ้า จะลองใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บ มาจุ่มไว้บนคราบจนชุ่ม ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง แล้วก็ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเย็นมาเช็ดคราบจนสะอาดก็ได้จ้า
4. ยาสีฟัน
ยาสีฟันก็ช่วยกำจัดคราบหมึกบนเสื้อผ้าได้เหมือนกัน แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเลือกยาสีฟันที่ไม่มีสี ไม่ใช่เนื้อเจล และไม่มีสารฟอกฟันขาวด้วย เมื่อได้ยาสีฟันครบตามคุณสมบัติที่ต้องการแล้ว ก็นำมาป้ายลงบนคราบเปื้อน ทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วนำไปล้างผ่านน้ำเย็น จะใช้แปรงสีฟันช่วยขจัดคราบด้วยก็ดีค่ะ
5. แอลกอฮอล์
ใครที่อยากจะลองขจัดคราบเปื้อนจากหมึกด้วยแอลกอฮอล์ก็สามารถทำได้ โดยใช้ฟองน้ำหรือสำลีชุบแอลกอฮอล์ให้ชุ่ม จากนั้นก็บีบให้แอลกอฮอล์หยดลงบนคราบจนชุ่ม เสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วก็ซับคราบออกด้วยฟองน้ำ ตามด้วยซักเสื้อผ้าด้วยน้ำเย็นอีกที