เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก beauty.qqmm.com 

          หน้าตาของ เสี่ยวเหลียน หญิงชาวจีนจากมณฑลกานซูวัย 28 ปี ทั้งบานและบวมฉึ่ง เป็นผลจากการฉีดฟิลเลอร์เสริมแก้มกับหมอเถื่อนเมื่อ 11 ปีก่อน โดยสารที่ฉีดเข้าไปบนใบหน้าเธอนั้นถูกสั่งแบนในเวลาต่อมา เนื่องจากพบว่าสามารถเป็นพิษต่อร่างกาย 

          ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ระบุว่า เสี่ยวเหลียนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เพราะแก้มของเธอตอบทำให้ดูซูบและโทรม เจ้านายที่ร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานอยู่ถึงกับเอ่ยปากบอกว่า หน้าตาเธอดูซูบเซียวอย่างกับยาจก ไม่ดึงดูดใจผู้ชายดี ๆ เลยสักนิด ทำให้เธอเกิดความอยากฉีดฟิลเลอร์ขึ้นมา แต่เมื่อสำรวจราคาดูตามคลินิกเสริมความงามก็พบว่าราคาแพงเกินอาจเอื้อม สุดท้ายก็ได้เพื่อนแนะนำคลินิกที่รู้จักซึ่งมีค่าบริการต่ำกว่าให้ จึงตกลงใจอย่างไม่ลังเล ซึ่งเธอบอกว่าหมอก็ดูเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือดี แต่สิ่งที่เธอไม่ทราบคือคลินิกแห่งนั้นไม่มีใบอนุญาตประกอบการ 

          เสี่ยวเหลียนฉีดฟิลเลอร์จนครบ 10 ครั้ง เธอมีความสุขและพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้มาก แต่แล้วในปี 2009 เมื่อเธออายุ 24 ปี ความผิดปกติก็เริ่มปรากฏ เมื่อใบหน้าของเธอบวมขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ รูปร่างของตา จมูก และองค์ประกอบอื่น ๆ บนใบหน้าดูผิดรูปไปหมด จนถึงปัจุบันนี้ ใบหน้าของเธอทั้งบวมทั้งบาน หนังตาตก และผมบนศีรษะเริ่มร่วง ความสวยที่เคยพึงพอใจหายไปหมดจนเธอแทบอยากฆ่าตัวตายเพราะรับไม่ได้กับสภาพใบหน้าของตัวเอง สุดท้ายต้องโร่หาไปหมอเพื่อให้ช่วยแก้ไข 

          จากการตรวจสอบพบว่า สารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเข้าใบหน้าเธอนั้นคือสาร "ไฮโดรฟิลิก โพลีอะครีลาไมด์" (hydrophilic polyacrylamide) ซึ่งเป็นเจลที่นิยมใช้ในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกในประเทศจีน แต่แล้วก็ถูกสั่งแบนไปในปี 2006 เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามันเป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งในกรณีของเสี่ยวเหลียนนั้น เธอเป็นหนึ่งในผู้ป่วยหลาย ๆ คนที่ได้ผลกระทบจากพิษของสารดังกล่าวที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายก่อนที่จะมีคำสั่งแบน ส่วนการรักษาแก้ไข แพทย์ได้แจ้งกับเธอตามตรงว่าไม่อาจทำให้ใบหน้าเธอกลับไปสู่สภาพเดิมทั้ง 100% ได้ เพราะสารอยู่ในร่างกายเธอมาเป็นเวลานาน และพิษได้ถูกซึมซับเข้าสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงไปมากแล้ว 

          ทั้งนี้ มีผู้ป่วยจำนวนมากที่เข้ารับการรักษาแก้ไขผลการศัลยกรรมจากการไปทำศัลยกรรมราคาถูกกับหมอเถื่อน ส่วนพิษของสารไฮโดรฟิลิก โพลีอะครีลาไมด์ ที่มีต่อร่างกายในระยะยาวนั้น ยังคงไม่มีผลการศึกษาอย่างเป็นทางการออกมา เป็นอุทาหรณ์ให้ระลึกไว้ว่า ผู้ที่คิดจะไปทำศัลยกรรมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ควรคิดให้หนักถึงผลการศัลยกรรมที่จะตามมาในระยะยาวด้วย