เรื่องเล่าจาก จชต.

เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. เวลาประมาณ 2330 ชป.พิเศษ 1 ร้อย.1 ฉก.นธ.31 ขับรถ ลว.บนถนนเส้น 4084 เพื่อหาที่ซุ่มตามคำสั่งของ ผบ.ร้อย.ระหว่างขับ ลว.ผ่านบ่อขุดทราย บ.โคกยามู จนท.2 นายที่นั่งหน้ารถ สังเกตุเห็นกองขยะบนไหล่ทาง ใกล้ศาลารอรถประจำทาง จนท.1 นายถามขึ้นมาว่า"อะไรน่ะพี่" จนท.อีกนายจึงตอบไปว่า"ถ้าไม่ใช่กองขยะก็ไอ้อย่างที่เอ็งนั่นล่ะ" เมื่อขับเลยไป 1 u-turn ก็กลับรถมา แต่ด้วยความคาใจ ทั้งสองนายจึงตัดสินใจไปจอดห่างจากจุดที่พบ 100 ม.แล้วใช้กล้องของรถเกราะดูภาพ และขยายเข้าไปแต่ก็ยังเห็นไม่ชัด จึงขับเข้าไปใกล้อีกแล้วลงจากรถ ใช้กล้องมองกลางคืนมาหาสิ่งผิดปกติบนพื้นที่โดยรอบ ก่อนเข้าตรวจสอบด้วยตนเองเมื่อทั้งสองแน่ใจแล้ว จนท.คนแรกพร้อมลูกน้องหนึ่งนายจึงเดินเท้าเข้าตรวจสอบกองขยะดังกล่าว โดยมี จนท.อีกคนและลูกน้องอีก 4 คนคอยคุ้มกันจากทั้งบนรถและบนพื้นดิน เมื่อ จนท.คนแรกที่เห็นเดินเข้าถึงกองขยะ มองดูโดยรอบมีเศษผ้าอ้อมสำเร็จรูปเด็กใช้แล้ว 7-8 ชิ้น กระสอบเก่าๆ 2 ใบ ทั้งคู่คิดเพียงว่าเป็นกองขยะธรรมดา จนท.คนที่เข้าตรวจสอบจึงใช้เท้าเตะเพื่อใช้ลงจากถนน แต่ผลปรากฏว่ามีของหนักและใหญ่อยู่ภายใน จนท.คนที่เข้าตรวจสอบจึงสงสัย และเดินกลับมาขอมีดที่เสื้อเกราะของอีกคน ไปกรีดก้นกระสอบเปิดดูของที่อยู่ภายใน พอเปิดออกจนเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน จนท.ก็วิ่งกลับมาหาอีกคนทันที จนท.อีกคนจึงถามไปว่า"มีอะไรวะ?" จนท.คนที่ตรวจสอบตอบกลับมาว่า"มั้นน่ะพี่"จนท.คนที่ถามจึงเข้าไปดูด้วยตนเอง วัตถุที่อยู่ภายในกระสอบไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจึงใช้ไฟฉายติดปืนส่องดูภายในกระสอบ ทันทีที่เห็นวัตถุ จนท.นายนั้นสะดุ้งเหมือนเห็นผี ดับไฟฉายหันกลับไปบอก จนท.คนแรกที่ตรวจสอบว่"ใช่ เหมือนที่ปูลาเจ๊ะเป๊ะ"แล้วสั่งการโดยใช้อำนาจของความเป็นหัวหน้าชุด ให้ลูกน้องทุกคนออกจากพื้นที่ที่ยืนอยู่ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม(ถนน 4 เลนส์มีเกาะกลางถนน)และตรงสอบพื้นที่ของฝั่งที่ย้ายไปโดยละเอียด เมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยจึงวิทยุขอให้ ชป.พิเศษ 2 ที่ซุ่มห่างออกไป 5 กม.มาช่วยปิดล้อมพื้นที่ เมื่ออีกชุดมาถึง หน.ชป.พิเศษ 1 จึงโทรศัพท์แจ้ง ผบ.ร้อย(ไม่ใช้วิทยุเพราะถ้าใช้เรื่องจะถึง ผบ.พันโดยไม่เจตนาได้)ผบ.ร้อยจึงสั่งการให้จัดกำลังเป็นชุดเฝ้าระวัง เฝ้าวัตถุต้องสงสัยคอยการตรวจสอบจากหน่วย EOD ที่จะเข้ามาตรวจสอบในตอนเช้า ทันใดนั้น ลูกน้องของอีกชุดตะโกนมาว่า"มีไฟเรืองๆ เหมือนมีคนสูบบุหรี่"หน.ชป.พิเศษ 1 จึงประทับปืนเปิดกล้องมองกลางคืนมองหาแสงไฟดังกล่าว เมื่อพบจึงเดินเข้าไปตรวจสอบแต่เมื่อเข้าไปใกล้กลับพบว่าเป็นแสงของไฟที่ใกล้มอด ซึ่งคาดว่าจะเผาเพื่อลวงให้ จนท.ดับเพลิงมาดับแล้วระเบิดใส่ ตรวจสอบรอยเท้าก็พบว่ารอยเท้าหายไปทบ่อขุดทรายด้านหลังกอไม้ที่ถูกเผา จึงไม่แจ้งอะไรเพิ่มเติมไปยังหน่วยเหนือ และจัดชุดเฝ้าระวังตามคำสั่ง ผบ.ร้อย โดย หน.ของทั้ง 2 ชุด ตัดสินใจจอดรถห่างจากจุดพบวัตถุต้องสงสัย 50 ม.ห่างจากศาลา 30 ม.บนถนนฝั่งเดียวกันกับวัตถุดังกล่าวสลับกันนอนสลับกันตื่นจนสว่างมีกำลังจากในกองร้อยมาเปลี่ยนพร้อม ผบ.ร้อยเข้ามาตรวจสอบด้วยตนเองและให้ ชป.พิเศษทั้ง 2 ชุดกลับพักผ่อน จนท.ชป.พิเศษ 2 ชป.กลับถึงฐานก้ได้แต่รอลุ้นว่ามันใช่ระเบิดจริงหรือไม่ แต่เมื่อ EOD เข้าตรวจสอบกลับได้ฟังข่าวที่น่าตกใจยิ่งกว่าตอนที่เจอระเบิด เพราะได้รับแจ้งว่ายังมีระเบิดอีก 2 ลูก 1 ลูกใต้ศาลาที่จอดรถห่าง แค่ 30 ม.น้ำหนัก 50 กก.บรรจุถังแก็สหุงต้ม ฝังอยู่ใต้ศาลาที่อยู่ห่างจากวัตถุดังกล่าวแค่ 20 ม.ครั้งแรก หน.ชป.พิเศษ 2 เสนอให้ไปนอน แต่ หน.ชป.พิเศษ 1 ค้านไว้ว่าใกล้เกินไป ค้านว่าใกล้เกินไปจึงถอยระยะออกมาดังกล่าว หากเมื่อคืนนั้นนอนที่ศาลา ป่านนี้ ชป.พิเศษทั้ง 2 ชป.คงเหลือเพียงชื่อ ติดไว้บนอนุเสาวรีย์ นย.เป็นแน่

เรารัก ทหารนาวิกโยธิน

Credit: เรื่องเล่าจาก จชต.
11 ต.ค. 56 เวลา 14:57 2,140 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...