เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yanaphon Youngyuen (ญาณพล ยั่งยืน)
อดีตรองอธิบดี DSI เผย คนไทยแอบหนีเข้าญี่ปุ่นมากขึ้น หลังญี่ปุ่นออกกฎให้คนไทยเข้าประเทศได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ห่วง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ญี่ปุ่นอาจกลับไปใช้กฎเดิม ทำให้คนไทยต้องขอวีซ่าเข้าประเทศอีก
หลังจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศให้คนไทยสามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ก็ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นกันมากขึ้น โดยองค์การท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น ได้เปิดเผยตัวเลขว่า เฉพาะเดือนสิงหาคม 2556 เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเข้ามาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 103.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายยกเลิกวีซ่านั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า เมื่อประเทศญี่ปุ่นยกเลิกนโยบายดังกล่าว ก็ทำให้มีคนไทยจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าไปในประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่กลับออกมาตามกำหนด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ที่เพิ่งจะเกษียณอายุราชการไป อดกังวลไม่ได้ หลังจากได้รับข้อมูลว่า ขณะนี้มีคนไทยหลบหนีเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ญาณพล ได้โพสต์ข้อความลงใน เฟซบุ๊ก Yanaphon Youngyuen (ญาณพล ยั่งยืน) ว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 คณะตำรวจจากประเทศญี่ปุ่นได้มามอบใบประกาศเกียรติคุณให้ตนและทีมงาน DSI ที่ช่วยกันสืบสวนจนสามารถจับกุมแก๊งยากูซ่าระดับคนสำคัญที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้ 2 คน กระทั่งนำไปสู่กระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
นอกจากนี้ คณะตำรวจญี่ปุ่นได้ให้ข้อมูลด้วยว่า ปกติจะมีคนไทยหลบหนีเข้าเมืองญี่ปุ่นประมาณปีละ 50 คน แต่หลังจากประเทศญี่ปุ่นออกกฎใหม่ให้คนไทยสามารถเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า กลับพบว่ามีคนไทยหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มมากขึ้นถึง 400 คน ซึ่งถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ ทางการญี่ปุ่นอาจต้องยกเลิกกฎดังกล่าว แล้วให้คนไทยต้องขอวีซ่าตามเดิมก็เป็นได้ จึงอยากขอความร่วมมือให้ทุกคนช่วยกันอย่าทำผิดกฎหมาย