สารพัดเห็ด

 

ป่าคือบ่อเกิดของความชุ่มชื้น  ไม้ไร่ที่หักโค่นลงเพราะความเก่าแก่หมดอายุ  ถูกย่อยสลายไปโดยกระบวนการธรรมชาติ  ทั้งสิ่งมีชีวิตพวกมดปลวก  มอดและหนอนต่างๆเห็ดราทั้งหลายก็เป็นตัวการอีกอย่างหนึ่ง  ที่เร่งให้ใบไม้และกิ่งก้านผุสลายเร็วขึ้น

         ป่าชุ่มชื้น  อุดมด้วยเห็ดราชนิดต่างๆหลากสีสัน เห็ดบางชนิดสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติจะรังสรรค์ได้ขนาดนี้ ป่าชื้นๆตามท่อนไม่ผุๆมักจะเห็นเห็ดดอกเล็กๆ สีแดง  เหลือง ส้ม ชมพูและขาวสะอาด เต็มไปหมด เห็ดสีสวยเหล่านี้สวยก็จริงแต่กินไม่ได้  เข้าทำนองสวยแต่รูปจูบไม่หอม ใครเซ่อซ่าสวาปามเข้าไปเข้าไปมีแต่ตายลูกเดียวเหมือนผู้หญิงบางคนที่สวยบาดตา แต่ร้ายเหลือดี(พูดเหมือนคนอกหัก)

เห็ดบางชนิดไม่สวยแต่มีความประหลาดไม่น่าเชื่อ เช่น เห็ดกระสือ ดอกสีขาวบานกลางดึก ชอบขึ้นริมหนองน้ำในป่าลึก คงจะประกอบด้วยธาตุฟอสฟอรัส เพราะคืนเดือนมืดถูกแสงไฟเข้าจะเปล่งประกายสีเขียวเรืองราวกับตาสัตว์เคยมีพรานหน้าใหม่ไล่ยิงจนหมดกระสุนมาแล้ว

ภาพเห็ดกระสือขณะเรืองแสง

 

ส่วนเห็ดที่กินได้รูปร่างและสีสันมักจะไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไรเช่นเห็ดตับเต่าเป็นต้น ดอกใหญ่ขนาดฝ่ามือกาง สีเทาบ้างสีเขียวคล้ำบ้าง ยับย่นยู่ยี่ดูไม่น่าดู  แต่กินอร่อยเนื้อในสีเหลืองน่ากิน ชอบขึ้นตามโคนไม่ผุ พวก สมพง งิ้ว หรือตามบ้านก็ไม้ชุมเห็ดเก็บเห็ดมาแล้วล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นสัก2-3นิ้ว  ที่นี้จะแกงป่าผัดเผ็ดหรือต้มยำก็อร่อย เนื้อเห็ดนอกจากหวานแล้วยังกรอบหยุ่น เคี้ยวแล้วบริหารเหงือกดีนัก เห็ดไม่สวยแต่กินอร่อยอีกอย่างคือเห็ดกระด้างดอกเล็กมีรอยแตกลายงาทั่วไป แต่รสชาติจะต้มยำทำแกงก็อร่อยทั้งนั้น

นี้ไงเห็ดตับเต่า

ป่าทางเหนือก็มีเห็ดที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือเห็ดเผาะ บางทีก็เรียกเห็ดถอบ พบขึ้นเป็นกลุ่มอยู่ตามผิวดิน ดอกเล็กขนาดปลายนิ้วหรือหัวแม่มือ สีเทาหรือดำพบทีไรไม่เคยมีแค่ดอกสองดอก คุ้ยดินให้ดีบางทีเก็บจนเต็มตะกร้าก็ยังไม่หมด  เก็บมาได้มากๆกินไม่หมดต้องต้มน้ำให้สุกเสียก่อนไม่งั้นจะโรยเน่ากินไม่ได้

วิธีการกินเห็ดเผาะโดยมากคือแกงเผ็ดเคี้ยวแล้วมันปากอย่าบอกใครเพราะเห็ดเผาะ  กรอบข้างในกลวง เวลาขบแล้วแตกดัง เผาะ ทุกครั้งใครเคยเจอแต่สาวขบเผาะ ลองมาเคี้ยว เห็ดเผาะ ดูบ้างจะได้ความมันส์ไปอีกแบบ

นี่ไงเห็ดเผาะน่ากินใช่มั้ย!!!

เห็ดป่าชั้นดีขึ้นมาอีกหน่อยเห็นจะได้แก่ เห็ดหูหนู  คนส่วนมากไม่รู้ว่า เห็ดหูหนู มีในป่า คิดว่ามาจากเมืองจีนหรือจากโรงเรือนเพาะเลี้ยงเท่านั้น แต่ในป่าเป็นแหล่งเห็ดหูหนู ชั้นดีที่สุด ตามต้นไม้เนื้ออ่อนที่ล้มผุอยู่มี เห็ดหูหนู

ให้เก็บกินเป็นประจำ เคยพบ เห็ดหูหนู มากที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งในป่าทางตะวันออกใกล้ๆกรุงเทพนี้เอง ต้นงิ้วล้มขวางทางอยู่เห็นที่แรกก็ยังงง เพราะมี เห็ดหูหนู ขึ้นให้ยุ่บจนมองมาเห็นเนื้อไม้เสียดายที่คราวนั้นเอารถจิ๊ปเล็กเข้าไป เลยเก็บมาได้แค่เต็มท้ายรถจิ๊ปซึ่งแคบนิดเดียว ถ้าเป็นรถปิกอัพคงเก็บมาขายรวยไปแล้ว

ได้เห็ดหูหนู มาแล้วจะทำอะไรกินดี ชาวป่าบางคนไม่คุ้นกันการกินเห็ดหูหนูเท่าไรนัก บ้างก็ไม่กล้ากินด้วยซ้ำ

เพราะกลัวเมา หารู้ไม่ว่า เห็ดหูหนู นั้นทำอะไรกินได้สารพัด สดๆนั้นผัดกับพริกสดกับหน่อไม้ก็กรุบกรอบดีไม่หยอก แต่การกินเห็ดหูหนู แบบสุดๆคือพัดขิง จะผัดกับหมูป่าหรือหมูปล่อยก็ได้ทั้งสิ้น มีต้นหอมด้วยก็ดีไม่มีก็ไม่เดือดร้อน หั่นหน่อไม้รวกใส่แทนก็ได้ ซอยขิงเทลงไปมากๆหน่อย นอกจากอร่อยแล้วยังเป็นยาระบายไล่ลมดีนัก ข้อสำคัญคือเวลาผัดหลังจากใส่น้ำตาล-น้ำปลาแล้ว อย่าลืมเติมน้ำส้มสายชูลงไปซักช้อนไฟร้อนๆรับรองกลิ่นตลบไปสามลูกภูเขาทีเดียว

เห็ดหูหนูที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ที่นี้จะว่าถึงเห็ดที่เป็นราชาแห่งเห็ดทั้งหลาย คำว่าราชาในที่นี้เป็นคำนามธรรม  หมายถึงความยิ่งใหญ่ทางรสชาติอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น เห็ดที่ว่านี้คือเห็ดโคน ซึ่งเป็นเห็ดที่อร่อยที่สุดในโลกก็ว่าได้ เห็ดโคนมีเอกลักษณ์พิเศษหลายอย่าง นอกจากกินอร่อยที่สุดแล้ว วิธีการเกิดก็ต้องเกิดขึ้นเอง บนพื้นดินที่ข้างไต้มีรังปลวกเท่านั้น ยังไม่มีใครสามารถเพาะขึ้นได้แบบเห็ดอย่างอื่น

ที่จริงเห็ดโคนมีสองชนิดล้วนแต่ตามปลวกทั้งนั้น ชนิดแรกบางทีเรียกเห็ดขาไก่ ดอกใหญ่กว่าฝ่ามือกางๆ สีขาวสะอาดตรงกลางเหลืองนิดหน่อยอวบหนาน่ากิน เห็ดโคน แบบนี้พบไม่มานักแต่เก็บได้ตรงไหนแล้วมักขึ้นซ้ำที่เดิมทุกปีที่หนึ่งบางทีได้ สามดอก ห้าดอก แต่แค่นี้ก็พอกินเพราะดอกใหญ่อย่างว่า

ส่วนเห็ดโคน ที่พบในป่า ดอกเล็กกว่า สีคล้ำออกเทา พบครั้งหนึ่งไม่มีดอกสองดอก ตามป่าไผ่แถวเมือกาญจน์ สมัยตอนผมยังเด็กๆเก็บทีหนึ่งกองสูงท่วมหัวก็ยังไม่หมดวิธีดูให้แน่ใจว่าเป็น เห็ดโคนไม่ยาก ถอนขึ้นมาแล้วตรงโคนจะเป็นตุ้มใหญ่ๆเรียวไปเหมือนรากไม้ ถ้ายังไม่แน่ใจก็ใช้เล็บแกะลอกเปลือกด้านบนออก จะเห็นเนื้อขาวน่ากินถ้าเป็นเห็ดเมา จะลอกเปลือกแบบนี่ไม่ได้

เนื้อเห็ดโคน มีความหวานกรุบและเหนียวกำลังดี ทำอะไรกินก็อร่อย ไม่ว่าจะต้มยำ ทำสลัด แกงเผ็ด ผัดไก่ ผัดหน่อไม้ แกงจืดเรื่องผงชูรสไม่ต้องพูดถึงแต่ถ้ามีผงชูรสป่าคือ ใบกัญชา สดก็ไม่ผิดกติกาใส่ลงไปได้เลย

ได้เห็ดโคนมาแล้วทำอะไรไม่เป็นเลยก็โยนเข้ากองไฟ เขี่ยไปเขี่ยมาสองสามทีก็สุข กลิ่นหอมของเห็ดโคนย่างยั่วน้ำลายไม่มีที่เปรียบ เรียกว่าไก่ย่างชิดซ้ายตกถนนไปเลยแล้วกัน ใครที่เบื่ออาหารกินอะไรไม่ลง ลองได้เห็ดโคนย่างจิ้มน้ำปลาพริกเข้า ระวังข้าวหมดหม้อไม่รู้ตัว

น่ากินใช่ม๊า!!!

ชักจะใกล้น่าฝนแล้วพวกเรามาเตรียมตัวออกหาเห็ดกันเถอะ!!!!

เม้นกันด้วยหน่ะคับผมจะได้รูว่าผมบกพร่องอ่ะไร


Credit: ผมเองงง
26 มี.ค. 53 เวลา 10:46 8,633 2
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...