ปอท.รวบ แก๊งหลอกเหยื่อโอนเงินผ่านเฟซบุ๊ค

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ติมุลา รักษาราชการแทนผกก.ปอท. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งกระทำความผิดโดยใช้ช่องทาง เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ประกอบด้วย น.ส.รัฐพร จันหนัก , น.ส.ภัทรภร  ฉิมพาลี , น.ส.นัฐธิดา วงศ์ทองทิว และ นายโมโร  อิบราฮิม ชาวกานา ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะนำไปสู่ความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตร 83 , 341 , 342 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14(1)

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาผู้เสียหายได้รู้จักกับคนร้ายผ่านทางเฟซบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่านายทิโมที  ช๊อตเตอร์ (Timothy  Shorter) โดยคนร้ายได้ส่งข้อความทักทายและติดต่อจนเกิดความสนิทสนม ต่อมาได้อ้างว่าจะเดินทางมาสมัครงานที่บริษัท เชลล์ ออยล์ จำกัด  โดยติดต่อผ่านเอเย่น คือ น.ส.รัฐพร แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการล้างท่อส่งน้ำมัน 60,000 บาท ซึ่งขณะนั้นคนร้ายมีเงินอยู่ 30,000 จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเงินที่เหลือไปให้  หลังจากนั้นคนร้ายได้ส่งรูปเช็คธนาคาร 550,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มาให้ผู้เสียหายดู โดยอ้างว่าเป็นเช็คที่บริษัทเชลล์ ออยล์ฯ ออกให้เป็นค่าตอบแทนการทำงาน และจะนำเงินที่ยืมมาคืนให้รวมถึงจะให้เงินจำนวนหนึ่งไปใช้เพื่อการศึกษาของลูกสาวของผู้เสียหายโดยจะส่งไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาไม่นานคนร้ายอ้างว่าการนำเช็คไปขึ้นเงินต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นเงินสด 270,000 บาท ซึ่งคนร้ายอ้างว่าไม่มีเงินสด จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเงินให้อีกเป็นครั้งที่ 2

อย่างไรก็ตาม คนร้ายยังอ้างว่ามีผลงานเป็นที่น่าพอใจจึงมีการเสนองานให้ทำต่อแต่ต้องเสียภาษีการเข้าทำงานในอัตราร้อยละ 7 จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเงินไปช่วยอีกประมาณ 665,000บาท ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อรวมถึงยังได้โอนเงินอีก 6,000 บาท ที่คนร้ายอ้างว่าไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นคนร้ายยังอ้างว่า ได้นำเช็คไปขึ้นเงินแล้วและกำลังรวบรวมเงินไปซื้อเครื่องจักรที่ประเทศจีนเนื่องจากหากโครงการสำเร็จจะได้รับค่าตอบแทน 7,200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อแต่มีเงินไม่พอจึงโอนเงินให้คนร้าย 322,000 บาท หลังจากนั่นคนร้ายอ้างว่าประสบอุบัติเหตุ และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงเข้าร้องทุกข์ต่อปอท. ในการจับกุมผู้กระทำผิด
 

พ.ต.อ.ศิริพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนไปเป็นบัญชีของน.ส.รัฐพร และนายไพฑูรย์ ซึ่งน.ส.ภัทรกร เป็นผู้พาไปเปิดบัญชีและยึดสมุดกับเอทีเอ็มไว้ เมื่อตรวจสอบพบว่านายโมริ น.ส.นัฐธิดา และชายผิวดำอีกรายหนึ่งเป็นผู้กดเงินออกไป เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การซัดถอดกันไปมา ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นผู้ใช้ชื่อดังกล่าวไปหลอกลวงผู้เสียหาย  ทั้งนี้การโอนเงินของผู้เสียหายทั้ง 5 ครั้ง เกิดขึ้นภายในเดือนเดียวเท่านั้น    ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังการติดต่อกับบุคคลที่ไม่รู้จักผ่านทางอินเตอร์เน็ต ไม่ควรหลงเชื่อหากมีการหลอกให้โอนเงิน อย่างไรก็ตาม พบว่าขบวนการดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการแฮกข้อมูลทางเมลคู่ค้าทางธุรกิจบางรายซึ่งจะขยายผลการสอบสวนต่อไป 

 
 
อ้างอิง  ข่าวจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Credit: http://entertainment.goosiam.com/news/html/0039393.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...