ทำแผนโจรชิงเงินแบงก์กสิกร ลาดพร้าว สารภาพหาเงินง้อเมีย

คุมตัวแป๊ะปล้นแบงก์กสิกรลาดพร้าวทำแผน (ไอเอ็นเอ็น)

           รอง ผบช.น.2 พร้อมตำรวจสุทธิสาร คุมตัวผู้ต้องหาบุกเดี่ยวใช้ดินน้ำมันอ้างเป็นระเบิดจี้แบงก์กสิกร ลาดพร้าว ซ.10 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังยอมรับทำจริง อ้างตกงาน-หาเงินขอคืนดีภรรยา

          วันนี้ (4 ตุลาคม 2556) พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมตำรวจ สน.สุทธิสาร คุมตัว นายเจสการณ์ ตรีจิรกุล อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากซอยลาดพร้าว 10 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ธนาคารกสิกรไทย โดยเริ่มจากจุดเกิดเหตุ ขณะเข้าไปภายในธนาคารเพื่อนำระเบิดปลอม ที่ทำจากดินน้ำมัน เข้าไปข่มขู่บังคับเงินจากพนักงานของธนาคารกสิกรไทย ก่อนจะชิงเงิน 2.2 แสนบาท แล้ววิ่งไปที่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดงเทา มนฉ-879 กรุงเทพมหานคร ที่จอดไว้บริเวณหน้าร้านขายรถจักรยานยนต์ มอเตอร์เวิร์ค ที่อยู่ริมถนนลาดพร้าว อยู่ห่างจากธนาคารกสิกรไทย มาประมาณ 100 เมตร จากนั้น ผู้ต้องหาได้ขี่ รถ จยย. ไปจอดทิ้งไว้ที่ อินทามระ ซ.33 ก่อนจะไปโอนเงินให้ภรรยาที่ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาบิ๊กซี รัชดา ก่อนจะถูกตำรวจติดตามจับกุมได้ในที่สุด

โดย พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.สุทธิสาร กล่าวถึงการติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหาว่า หลังจากตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เกี่ยวกับทะเบียน รถ จยย. จึงนำไปตรวจสอบ พบว่ามีชื่อของผู้ต้องหาเป็นผู้ครอบครองรถ จึงนำที่อยู่ของผู้ต้องหาแล้วส่งชุดสืบสวนไปเฝ้าที่บ้าน 2 จุด คือที่ ธัญบุรี แต่เจ้าหน้าที่ไปพบผู้ต้องหาที่บ้านพี่สาวของผู้ต้องหาที่ประชาสงเคราะห์ จึงคุมตัวมาสอบสวน และใหัการรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนตกงานและต้องการหาเงินไปขอคืนดีภรรยา ประกอบกับมีอาการทางประสาท จึงเดินไปสังเกตหน้าธนาคารกสิกรไทยดังกล่าว เมื่อเห็นว่าไม่มีคนพลุกพล่าน จึงตัดสินใจลงมือโดยไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน

          อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุนั้น มีพลเมืองดีเป็นพนักงานส่งเอกสารขี่รถ จยย. ไล่ตามคนร้ายไปจนถึงแยกสุทธิสาร ซึ่งแม้จะตามไม่ทันแต่ก็ได้เบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ทราบชื่อแมสเซ็นเจอร์คนดังกล่าวคือ นายสมภพ แสงอุตส่าห์ อายุ 49 ปี เจ้าตัวบอกว่า วันเกิดเหตุตนนำเช็กบริษัทมาเข้าธนาคารตามปกติ แต่ขณะจอดรถเห็นคนร้ายวิ่งออกมาจากธนาคาร แล้วมีเสียงแม่บ้านตะโกนว่ามีโจรปล้น ตอนแรกก็ไม่เชื่อเพราะเห็นคนร้ายขากระเพรก แต่เมื่อเห็นพนักงานอยู่ในอาการตกใจ ตนจึงวิ่งตามคนร้ายไปเพื่อจดทะเบียนรถ และพยายามใช้เท้าถีบรถของคนร้ายแต่ไม่ล้ม จึงขี่รถตามไป ซึ่งส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายคดีและตามจับคนร้ายได้สำเร็จ



Credit: http://hilight.kapook.com/view/91926
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...