มื่อวันที่ 4 ตุลาคม เว็บไซต์ยูเอสเอทูเดย์ เผยบทสัมภาษณ์ของมาดอนน่า นักร้องสาวชื่อดัง จากนิตยสารฮาร์เปอร์ บาร์ซาร์ เวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกา ฉบับเดือนพฤศจิกายน โดยมาดอนน่าเผยว่า เธอเคยถูกปืนจี้และถูกข่มขืนในช่วงแรกที่เธอเริ่มไต่เต้าหาชื่อเสียง และต้องย้ายมาอยู่ในอยู่นิวยอร์ก
ทั้งนี้ มาดอนน่า เผยว่า นิวยอร์กไม่ใช่อย่างที่เธอคิด นิวยอร์กไม่ได้อ้าแขนต้อนรับเธอให้เข้าสู่วงการ ในปีแรกที่เธอมาถึงที่นี่ เธอเคยถูกปืนจี้ ถูกข่มขู่โดยใช้มีดจี้ไว้ด้านหลัง แล้วคนร้ายก็พาตัวเธอไปข่มขืนบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร อีกทั้งยังเคยถูกโจรขึ้นอพาร์ทเม้นท์ถึง 3 ครั้ง เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เพราะเธอไม่มีอะไรที่เป็นของมีค่าเลย นับตั้งแต่ที่โจรปล้นเอาวิทยุของเธอไปในการปล้นครั้งแรก
แต่หลังจากนั้น มาดอนน่าก็ค่อย ๆ ดีขึ้น และเธอเองก็พยายามไต่เต้าเข้าวงการมากขึ้น ซึ่งมาดอนน่าเผยว่า เธอเองพยายามพัฒนาความสามารถตัวเองไปอีกขั้น ไม่ใช่แค่เรื่องดนตรีและศิลปะ แต่คือทุก ๆ ด้านของชีวิต
"หากฉันไม่มีความกล้าในการทำงานหรือการใช้ชีวิต ฉันคงไม่รู้ว่า ฉันจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปทำไม" มาดอนน่า นักร้องวัย 55 ปีกล่าว
นอกจากนี้ มาดอนน่ายังเผยว่า ตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่น คนส่วนใหญ่มองว่าเธอเป็นคนแปลก และเธอเองก็มีเพื่อนไม่มาก เธอย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์กเพราะหวังว่าเธอจะได้กลายเป็นศิลปินตัวจริง และสามารถที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่
ความต้องการที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเองออกมา ได้ช่วยให้มาดอนน่าผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายในนิวยอร์กได้ โดยเธอเผยว่า สิ่งที่เธอเจอมาในเมืองโรเชสเตอร์ มิชิแกน บ้านเกิดของเธอนั้น ไม่ได้มีประโยชน์อะไรในนิวยอร์กเลย เธอพยายามเป็นแดนเซอร์มืออาชีพ หาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านด้วยการไปเป็นนางแบบเปลือยให้กับคลาสสอนศิลปะ มองดูผู้คนจับจ้องเธอตอนที่เธอกำลังแก้ผ้า ปล่อยให้พวกนั้นคิดว่าเธอเป็นอะไรก็ได้และวาดออกมาด้วยดินสอและและดินสอถ่าน เธอเองเป็นคนชอบท้าทาย ดิ้นรนต่อสู้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด ซึ่งมันยากและมันทำให้เธอเหงา และเธอเองต้องท้าทายตัวเองทุกวันเพื่อให้ตัวเองไปรอดได้