เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Kanthima Petkong
อะไรคือนิยามของคำว่า "สังคมที่น่าอยู่"...
บางคนอาจจะบอกว่า ในสังคมนั้นต้องมีคนเก่ง บางคนอาจจะบอกว่าสังคมนั้นทุกคนต้องมีกินมีใช้ จึงจะไม่เกิดปัญหาความวุ่นวายขึ้น แต่นั่นอาจเป็นการมองแค่เปลือกนอกหรือเปล่า? เพราะสำหรับอีกหลายคนกลับมองว่า ความเก่ง ความรวย นั้น ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักให้สังคมน่าอยู่ขึ้นเลย หากสังคมนั้นปราศจากคนซึ่งไร้ "ความเมตตาปราณี" และ "น้ำใจไมตรี"
แต่โชคดีเหลือเกินที่ในอีกหลาย ๆ มุมของสังคมไทย ยังปรากฏ 2 สิ่งนี้ให้เห็นอยู่มาก และก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นความเมตตาที่เกิดขึ้นระหว่างคนด้วยกัน หากแต่เป็นความเมตตาที่มนุษย์หยิบยื่นให้กับสัตว์เพื่อนร่วมโลก อย่างเช่นภาพต่อไปนี้ที่ คุณ Kanthima Petkong บังเอิญได้ไปพบเห็นเข้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคว้ากล้องบันทึกเอาไว้ได้
ในภาพคุณยายคนหนึ่งกำลังพายเรือมารับหลานสาวให้ข้ามฝั่ง ซึ่งเมื่อเจ้าสุนัขสีดำเห็นเข้า ก็ได้รีบกระโดดลงเรือ หวังจะขออาศัยเรือคุณยายเป็นพาหนะช่วยพามันข้ามฝั่งไปด้วย เมื่อหลานสาวเห็นดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด แต่กลับลูบหัวเจ้าหมาน้อยด้วยความเมตตาและเอ็นดู ภาพที่เห็นนี้ ถึงแม้จะดูเป็นแค่การแสดงน้ำใจในเรื่องเล็ก ๆ แต่เชื่อเถอะว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นเป็นต้องได้ยิ้มด้วยความประทับใจในความเอื้อเฟื้อที่คุณยายและหลานสาวมอบให้กับเจ้าสี่ขาตัวนี้...
"ภาพความเอื้ออาทรต่อกัน ไม่ว่าจะคนกับคน ผู้ใหญ่-เด็ก คนกับสัตว์ ฯลฯ
ถ้าภาพเหล่านี้ขยายต่อในใจผู้คน ไม่ต้องมาก ...แค่ความเอื้อเฟื้อต่อกัน เมตตากับสิ่งรอบตัว ไม่เบียดเบียนกัน ลดความเห็นแก่ตัว หยุดการแก่งแย่ง เลิกชิงดีชิงเด่นกัน พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และใช้สติปัญญาของตัวทำประโยชน์ให้ผู้อื่นบ้าง
อืม....ก็คงช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น (ฉันหวัง)"