รายงานจากเว็บไซต์มิเรอร์ วันที่ 2 ตุลาคม ระบุว่า นางอะกัสติน่า ดอร์แมน คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี จากเมืองปีกานา ประเทศอินโดนีเซีย ตัดสินเปิดเผยใบหน้าเต็ม ๆ ของตัวเองอย่างไม่อาย แม้จะมีเคราดกดำงอกเฟิ้มอยู่ใต้คาง เธอทำใจยอมรับสภาพอยู่กับความจริงได้ในที่สุด หลังจากซ่อนเครานี้ไว้ภายใต้ฮิญาบมานานหลายปี เลี่ยงที่จะพบเพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง จนการกระทำเช่นนี้ทำให้ลูกชายของเธอโดนเพื่อนล้อและแกล้งอยู่เรื่อยมา
อะกัสติน่าพบว่าตัวเองเริ่มมีเคราแข็ง ๆ สาก ๆ งอกออกมาตอนอายุ 25 ปี หลังจากคลอดลูกคนแรกได้เพียงไม่นาน ในตอนนั้นเธอเลิกมองตัวเองในกระจก เลี่ยงที่จะพบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน และแม้จะพยายามกำจัดด้วยการโกน แต่เธอก็พบว่าการโกนเคราแข็ง ๆ นี้ทำให้รู้สึกเจ็บได้ทุกครั้ง จึงปล่อยให้มันงอกยาวไปอย่างนั้น แต่เธอก็เกรงว่าด้วยสภาพผู้หญิงมีเครา จะทำให้ลูกทั้งสอง ซึ่งปัจจุบันอายุ 19 และ 3 ขวบ ถูกกลั่นแกล้งหรือโดนล้อจากเพื่อน ๆ หรือคนในหมู่บ้านได้ เธอจึงซ่อนมันไว้ภายใต้ฮิญาบเรื่อยมา
แต่การซ่อนก็ไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อมีหลายคนรับรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงมีเครา และลูกก็โดนล้อเลียนรังแกไม่หาย เหมือนว่ายิ่งปิดบังลูกของเธอก็ยิ่งโดนล้อเลียน ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ อะกัสติน่าตัดสินใจว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับความจริง ในที่สุดเธอก็เลิกพรางเคราไว้ใต้ผืนผ้า และกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงปกติ เผชิญหน้ากับผู้คนในหมู่บ้านเหมือนเช่นเคย รวมทั้งเผชิญหน้ากับคนที่ล้อเลียนกลั่นแกล้งลูก ๆ ของเธอด้วย และเธอก็ได้รู้ว่าทุกคนในหมู่บ้านไม่ได้รังเกียจรังงอนผู้หญิงมีเครามากมายอย่างที่เคยกลัว แม้จะโดนบางคนพูดเสียดสีใส่อยู่บ้างก็ตาม
อะกัสติน่าหวังว่าการเรียนและการศึกษาว่าด้วยเรื่องผู้หญิงที่มีขนขึ้นบนใบหน้า จะทำให้คนเข้าใจและยอมรับในรูปลักษณ์ของเธอมากขึ้น แม้ตอนนี้จะไม่ประสบความสำเร็จทั้ง 100% แต่ก็ทำให้เธอกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ต้องหลบซ่อนปิดบัง ที่สำคัญยังทำให้ลูกของเธอไม่โดนล้อเลียนกลั่นแกล้งเหมือนเช่นเดิม ถ้าความกล้าของแม่แลกแล้วได้มาซึ่งความสุขของลูกเธอก็ยินดี