สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมว่า นายไบรอัน สจ๊วต ผู้ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่เด็ก ได้สร้างความฮือฮาให้แก่เหล่าแพทย์ หลังจากพบว่าปัจจุบันร่างกายของเขาปลอดจากเชื้อเอดส์อย่างสิ้นเชิง ขณะที่เจ้าตัวได้บอกว่าเขาให้อภัยพ่อตัวเองที่ฉีดเชื้อร้ายดังกล่าวให้แก่เขา
รายงานระบุว่า นายไบรอัน ได้ถูกพ่อของเขาฉีดเชื้อเอดส์เข้าร่างกายตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เมื่อปี 1992 หลังใกล้หย่าภรรยาและต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายเลี้ยงดูบุตร ก่อนที่เขาจะถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยผู้พิพากษาประนามเขาว่าเป็นอาชญากรที่ชั่วร้ายที่สุด ขณะที่ครอบครัวของนายไบรอัน ได้นำ นายไบรอัน ไปเข้ารพ.เพื่อรับการบำบัดการติดเชื้อแพทย์ ซึ่งขณะนั้นแพทย์บอกว่าเขาจะมีอายุได้ไม่เกิน 3 เดือน - 5 ปี แต่เขากลับรอดมาถึงปัจจุบันโดยมีอายุได้ 22 ปี และปลอดเชื้อเอดส์อย่างสิ้นเชิง โดยแพทย์บอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งน่าเหลือเชื่อมาก
ด้าน ไบรอัน กล่าวว่า เขาต้องกลายเป็นผู้ติดเอดส์อย่างเต็มตัว เมื่ออายุ 15 ขวบ และสูญเสียการได้ยินราว 70 เปอร์เซนต์ เนื่องจากผลข้างเคียงของการกินแต่ยาบำบัดเอดส์ ซึ่งครั้งหนึ่งต้องกินถึง 23 เม็ด และรับการฉีดยาอีก 3 ครั้ง แต่ปาฎิหาริย์ก็ทำให้เขารอดตายอยางเหลือเชื่อ และเขาได้ให้อภัยพ่อของเขากับสิ่งที่กระทำกับเขาแล้ว แม้ว่าช่วงที่เป็นเด็กที่เขายังป่วยเป็นเอดส์ เขาจะต้องต้องเจอเหตุการณ์เจ็บปวดหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถกินน้ำประปาสาธารณะร่วมกับคนอื่นได้ ต้องใช้ห้องน้ำแยกกับคนอื่นและไม่มีเพื่อน ๆ ร่วมเลี้ยงวันเกิดเขา เพราะกลัวติดเอดส์
นอกจากนี้ เขายังเคยคิดจะฆ่าตัวตาย โดยคว้ามีดขึ้นมาและถามตัวเองว่า ทำไมเขาต้องมาติดเอดส์ แต่เขาก็ตระหนักว่า ทุกอย่างยังมีความหวังและชีวิตไม่สำคัญว่าเราเป็นอะไร แต่สำคัญว่าเราจะให้อะไรแก่โลกนี้ได้ นอกจากนี้ เขายังให้เครดิตแก่ความเชื่อในศาสนาของเขา ที่ทำให้เขามองโลกในแง่ดี และการรู้จักให้อภัย
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน ไบรอัน วาดฝันว่าจะทำงานด้านการเมือง หรืองานด้านศาสนา และเขาได้ใช้เวลาว่างสนับสนุนโครงการให้ความรู้ด้านเชื้อเอชไอวีและเอดส์ ช่วยผู้ติดเชื้อลดความเจ็บป่วยที่ตัวเองต้องติดเชื้อเอดส์
http://news.sanook.com