รู้จักเบียAsahi ปล่าว เบียที่ได้อันดับ1ของญี่ปุ่น

 

 

 

 

 

อันดับ 1 Asahi Super Dry

 

(アサヒ スーパードライ) จาก Asahi

เบียร์ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 1987 แล้วก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดเบียร์ ในประเทศญี่ปุ่นอย่างสุด ๆ  แต่เดิมเบียร์ในประเทศญี่ปุ่นจะเน้นที่ความหวาน หอม และความเข้มข้น แต่ Dry Beer เป็นเบียร์ที่ลดความขมด้วยการลดปริมาณข้าวมอลต์ลง แล้วใช้ข้าวหรือแป้งข้าวโพดเป็นส่วนผสมทำให้ดื่มง่าย  แล้วก็ลดความหวานด้วยการเพิ่มปริมาณแอลกอฮอลล์มากกว่าเบียร์ทั่วไปอีก 0.5% (4.5%==>5.0%) ทำให้ตอบสนองคนกลุ่มที่ต้องการลดน้ำตาลเช่นอยากดื่มเบียร์แต่กลัวอ้วนได้ด้วย ด้วยรสนุ่มๆ หอมนิดๆ หวานหน่อยๆ ของ Asahi Super Dry นี่เองที่ทำให้ Dry Beer เป็นที่นิยมแพร่หลายในญี่ปุ่น และจากแนวทางการทำตลาดที่แตกต่างทำให้คำว่า Super Dry ติดอยู่ในใจนักดื่มญี่ปุ่น  จนก่อให้เกิดสงครามตลาดเบียร์ในประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่า Dry Wars ในปี 1988 ขึ้น

กว่าจะได้เบีย Asahi

Yeast ยีสต์

ในกระบวนการผลิตเบียร์ซูเปอร์ดรายของอาซาฮีนั้น ยีสต์ที่หายากที่ถูกตั้งชื่อว่า อาซาฮีสายพันธ์ 318 จะถูกนำมาใช้ในการหมักเบียร์ (Fermentation) ซึ่งนอกจากจะให้ประสิทธิภาพในการหมักที่ดีแล้ว ยังให้กลิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพว่า เบียร์อาซาฮี Super Dry นั้น สะอาด หอมหวาน และรสชาติสดชื่น แบบ Dry Beer

ยีสต์คือสิ่งมีชนิดขนาดเล็กที่มีความอ่อนไหวสูง ซึ่งสถานะของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องระหว่างขั้นตอนการหมักเบียร์ (ยีสต์จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์) ในการที่จะทำให้ยีสต์ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการหมักเบียร์นั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีความรู้ของผู้หมักเบียร์เป็นสำคัญ อาซาฮีจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อจะไปให้ถึงและไกลกว่า ซับซ้อนกว่า และสมบูรณ์กว่าในเรื่องของรสชาติแบบ KARAKUCHI
 
    
Ingredients ส่วนผสมวัตถุดิบ
 
มอลต์ที่ใช้สำหรับ Super Dry ก็ถูกเลือกโดยใช้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงสายพันธ์, ต้นกำเนิด, วิธีที่เมล็ดแตกตัว ก็ถูกนำมาพิจารณาอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว ซึ่งแหล่งเมล็ดพันธ์ของอาซาฮีนั้นได้มาจากทั่วโลกจากเกษตรกรซึ่งแบ่งปันข้อมูลเมล็ดพันธ์ที่อาซาฮีต้องการและนำไปพัฒนา ทำให้ได้รับเมล็ดพันธ์ที่มีมาตรฐานเกินกว่าที่ต้องการเสียอีก

ถึงแม้ว่าในการปรุงกลิ่นของเบียร์นั้นจะใช้เพียงแค่ฮ็อบส์แสนแพงที่คัดสรรค์มาอย่างดีในปริมาณน้อยนิดก็เพียงพอ แต่กระนั้นอาซาฮีก็ยังตั้งใจที่จะใช้ฮ็อบส์ในปริมาณที่มากเกินกว่าที่พอเพียงเพื่อที่จะให้สุนทรียรสของความขมที่โดดเด่นของเบียร์ Super Dry ได้ปรากฏเด่นชัดขึ้นมา
 
 
Technology เทคโนโลยี
 
เพื่อที่จะได้มาซึ่งรสชาติที่นุ่มลึกซับซ้อน ซึมซับไปด้วยประสบการณ์ในการปรุงเบียร์ จนนำมาซึ่งการพัฒนารสชาติที่เรียกว่า Super Dry อาซาฮีให้ความใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอนในการผลิตเพื่อที่จะกำจัดรสชาติที่ไม่ต้องการออกไป โดยอาศัยความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในการผลิตเวิร์ท(เบียร์ที่ต้มแล้วแต่ยังไม่ได้หมักฟู หรือของเหลวรสหวานที่ได้จากหมักมอลต์และน้ำ, Wort) ยิ่งไปกว่านั้น อาซาฮีได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้รวมไปถึงการใช้ระบบสายพานลำเลียงที่ไม่ส่งผลเสียต่อมอลต์ และเครื่องสีที่ไม่ทำให้เมล็ดพันธ์เสียหายเกินไป จึงทำให้กลิ่นและรสชาติที่ไม่ต้องการไม่เกิดกับกระบวนการผลิตอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่อาซาฮีใช้ในการป้องกันรสชาติจะถูกทำลายจากกระบวนการผลิตก็คือสิ่งที่อาซาฮีเรียกว่า “เทคโนโลยีในฝัน” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรักษารสชาติและความสดใหม่ของเบียร์ ฮาซาฮีใช้เทคโนโลยีนี้โดยไม่ใช้วัตถุกันเสียเลย แต่ใช้พลังของธรรมชาติซึ่งมีอยู่แล้วในส่วนผสม ซึ่งเป็นที่พิสูจน์แล้วว่ารสชาติของเบียร์ยังคงความสดใหม่ไม่เปลี่ยนแปลง
 เทคโนโลยีในการผลิตเบียร์ของอาซาฮีมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน เป้าหมายก็เพื่อที่จะทำให้รสชาติที่นำเสนอแก่ลูกค้าทั่วโลกที่เรียกว่า KARAKUCHI ยังคงรสชาติเติมที่นุ่มลึกใสเหมือนอำพันไปตราบนานเท่านาน รสชาติที่เรียกว่า Asahi Super Dry
สาวๆๆที่ออกตามบูธเบีย Asahi
 
 
มีแบบชาเขียวด้วยนะ
ในไทยเรามีแค่อาซาฮีซุปเปอร์ดราย [Asahi Super Dry] แต่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ มีเพียบเลย
 
 
สุดท้ายรูปเราเอง ตอนทำงาน ชุดจะเป็นอีกแบบ 
 
และแบบนี้
 
 
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ 
ที่มา: http://www.xn--12cf7df4bdd2iqbyh5f.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539254964&Ntype=6 
http://picpost.postjung.com/97508.html 
http://www.marumura.com/top_japan/?id=3304 
http://www.cookiecoffee.com/food/1327/ครัวมือถือ-ตะลุยโรงงาน
Credit: http://men.postjung.com/710380.html
1 ต.ค. 56 เวลา 09:00 20,316 3 160
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...