หนุ่ม ซิ่งเก๋ง อัลติสชนเละรถป้ายแดง สลดสาวท้อง 5เดือนพุ่งออกl สาวท้อง จากตัวรถดับกลางทางด่วน ด้านคนขับหนุ่ม 23 สุดช็อก ให้การทั้งร้องไห้อ้างขับมาดีๆ แต่รถเกิดสั่นและส่ายไปมาจนควบคุมไม่ได้เลยพุ่งไปชนท้ายรถนิสสันป้ายแดงของ คู่สามีภรรยาอย่างแรงจนผู้หญิงพุ่งทะลุออกมา โชคยังดีสามีแค่เจ็บ แต่พยานแฉเห็นซิ่งปาดซ้ายปาดขวามาด้วยความเร็วตลอดทางกระทั่งพุ่งชนท้ายรถ คันหน้าเต็มแรง จนเกิดเหตุสลด
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 ก.ย. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ช่างสลัก พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนกันทำให้มีผู้เสียชีวิตที่บริเวณทาง ด่วนขั้นที่ 1 เลยจุดทางลงถนนพระรามที่ 4 มุ่งหน้าดินแดง แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทางด่วน 1 แพทย์นิติเวช ร.พ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิด เหตุบริเวณทางด่วนมุ่งหน้าดินแดง ช่องทางขวาสุด พบรถยนต์ยี่ห้อนิสสันรุ่น เซเรน่า สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ณ-7233 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพเสียหาย กระจกด้านข้างทั้งสองข้างและกระจกด้านหลังแตกเสียหายหมด พบผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.จุฑามาส โชติวงศ์สุโรจน์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนลาดปลาเค้า แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. สภาพศพสวมชุดลายดอกสีขาว-เขียว นอนหงายจมกองเลือด กะโหลกแตกเป็นชิ้นๆ มีสมองไหลออกมากองบริเวณพื้นถนน ซึ่งจากการตรวจสอบ แพทย์นิติเวชพบว่าผู้เสียชีวิตตั้งครรภ์ 5 เดือน นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือนายภัณฑิล น่วมเจิม อายุ 36 ปี สามีผู้ตาย ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ได้รับบาดเจ็บบริเวณมือซ้ายจากการพยายามปีนออกจากรถ
ในที่ เกิดเหตุยังพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ฎบ 509 กรุงเทพมหานคร คู่กรณี จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มีนายภูมิชนันท์ เรืองชัยนันท์ อายุ 23 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และเป็นผู้ขับรถเก๋งคันดังกล่าว ยืนร้องไห้อยู่
จากการสอบ สวนนายภูมิชนันท์ ซึ่งยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถขึ้นทางด่วนเพื่อไปทำธุระย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่ารถเกิดอาการสั่นส่ายไปมา ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้พุ่งไปชนท้ายรถ นิสสันคันดังกล่าว
ด้าน นายธิติ ธิติธรรมศักดิ์ อายุ 38 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังขับรถส่วนตัวมุ่งหน้าไปย่านบ่อนไก่ ระหว่างนั้นเห็นรถเก๋งโตโยต้าอัลติสขับปาดซ้ายปาดขวาด้วยความเร็ว จนกระทั่งพบว่ารถเก๋งคันนั้นพุ่งชนรถยนต์ยี่ห้อนิสสันเซเรน่าสีดำ จนรถที่ถูกชนพลิกตะแคงซ้าย ตนจึงรีบจอดรถเพื่อเข้าไปช่วยเหลือสามีผู้ตายที่กำลังปีนออกจากตัวรถ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางด้าน พ.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบบนทางด่วนที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ พบว่าไม่สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุการณ์ได้ พบเพียงภาพหลังจากเกิดเหตุ ซึ่งก็ได้นำภาพไปเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีแล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหากับฝ่ายใด เนื่องจากผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คันยังอยู่ในอาการตกใจ ไม่พร้อมจะให้การแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะเรียกทั้งสองฝ่าย รวมทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป