เทพเจ้าแห่งอียิปต์โบราณ 1

เทพเจ้าแห่งอียิปต์โบราณ

คงไม่มีอารยธรรมโบราณใด ที่ผูกพันกับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าที่หลากหลายเท่าชาวอียิปต์ เทพเจ้าของอียิปต์มักอยู่ในรูปของสัตว์นานาชนิดที่พบเห็นได้รอบๆตัว ต่างจากเทพเจ้าในจินตนาการของชาวกรีกและฮินดู หรือเทพเจ้าที่เกิดจากอิทธิพลของธรรมชาติ เช่น เทพแห่งลม เทพแห่งภูเขาไฟ ฯลฯ ของชาวเกาะทะเลใต้

                       จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นพบ ชาวอียิปต์เริ่มมีความคิดเรื่องเทพเจ้ามาไม่น้อยกว่า 6,000 ปี เทพรุ่นแรกๆ จะเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ เทพแห่งอาหารการกิน เช่นเดียวกับเทพรุ่นแรกๆของอารยะธรรมยุคเริ่มต้นอื่นๆ แต่เมื่ออียิปต์พัฒนาเข้าสู่ยุคฟาโรห์ เทพแห่งอียิปต์ก็พัฒนาซับซ้อนขึ้นเป็นลำดับ มีเทพประจำเมือง ประจำอาชีพ และเทพที่เคยใหญ่บางองค์ก็กลายเป็นเทพขั้นรองไป
ที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ คือเทพที่ยังเหลือปรากฎให้คนในปัจจุบันได้พบเห็นในรูปของภาพวาด รูปปั้น เครื่องประดับ และงานศิลป์ต่างๆ หรือแม้แต่มัมมี่ของสัตว์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นตัวแทนเทพเจ้า และเป็นเทพองค์ “ดัง” ที่คนอียิปต์โบราณส่วนใหญ่ให้ความเคารพนับถือ

 

                                           อามุน (หรืออาเมน อามอน) (AMUN /AMEN /AMON)
           เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองธีบส์ มีรูปเป็นบุรุษเพศ เศียรประดับศิราภรณ์รูปขนนกยาว ยุคหลังพระนามเพี้ยนเป็น อาตอน หรือ อาเตน ในยุคของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 4 ได้ทรงพยายามให้คนอียิปต์ทั้งมวลหันมาเคารพเทพอาเตนเพียงองศ์เดียว ซึ่งนับเป็นความพยายามในการปฎิรูปความเชื่อครั้งยิ่งใหญ่ โดยฟาโรห์เองได้เปลี่ยนพระนามเป็น อัคนาเตน (Akhenaten) และฟาโรห์องศ์ต่อมาก็ทรงพระนามที่เกี่ยวข้อง คือ ตุตันคาเมน เป็นต้น
อาเตน หรืออามุน ถือเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ ได้ถูกนำมารวมกับ รา หรื อ เร กลายเป็นสุริยเทพซึ่งเป็นใหญ่เหนือเทพทั้งปวง

 

                                                               รา หรือ เร (Ra / Re)
               เป็นเทพบิดรแห่งเทพทั้งปวง สัญลักษณ์ของพระองค์คือ รูปจานกลมแห่งดวงอาทิตย์ (Solar Disk) บางครั้งตั้งอยู่บนเรือ (Solar Boat) ที่พายเคลื่อนข้ามท้องฟ้าทุกวันๆ บางครั้งก็เป็นรูปเหยี่ยวที่มีจานกลมอยู่บนเศียร ในฐานะที่เหยี่ยวบินได้ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
 

 

                                                                   โอซิริส(OSIRIS)
                  เทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งยมโลก ฟาโรห์ที่สวรรคตจะทรงไปรวมกับโอซิริสในดินแดนหลังความตาย ในที่ฝังพระศพจะมีภาพโอซิริสเสมอ โอซิริสจะอยู่ในรูปบุรุษทรงเครื่องและมงกุฎของฟาโรห์ แต่มีผิวกายสีดำและถูกพันผ้าไว้แบบมัมมี่
โอซิริส คือศูนย์กลางความเชื่อเรื่องการกลับฟื้นคืนชีพ เพราะตามตำนานโอซิริสถูกฆ่าโดยเซธ และถูกสับเป็นชิ้นๆ แต่ด้วยความรักของมเหสีเทวีไอซิส ผู้ตามเก็บรวบรวมพระศพมาต่อใหม่ ทำให้โอซิริสกลับฟื้นคืนมาได้อีก

 

                                                                           ไอซีส(Isis)
                  อัครเทวีที่คนอียิปต์ให้ความนับถือมากที่สุด เป็นเทวีแห่งความรัก และการอุทิศตนเพื่อสามีและบุตร และยังมีมนต์ และชื่อเสียงทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วย
ไอซีมีพระรูปเป็นหญิงงาม ทรงเครื่องอย่างมเหสีแห่งฟาโรห์

 

               ฮอรัส (Horus)
                 โอรสแห่งโอซิริส และไอซีส ทรงสภาพเป็นนกเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและถูกทียบเป็นองค์ฟาโรห์เมื่อยังทรงพระชนม์ จึงจะพบรูปสลักองค์ฟาโรห์มีเทพฮอรัสรวมอยู่ด้วยเสมอฮอรัส คือตัวแทนแห่งความฉลาดแหลมคม และมีดวงตาที่มองทะลุได้อย่างรู้แจ้งเห็นจริง
 

 

                                                                        ฮาเธอร์ ( Hathor)
                  เทวีผู้ให้ ผู้มีความเมตตา จะอยู่ในรูปของวัว หรือเทพีที่มีเขาวัวอยู่บนเศียร ในสมัยหนึ่งน่าจะเป็นองศ์เดียวกับไอซีส เพราะตำนานบางแห่งก็ว่าเป็นมารดาแห่งฮอรัส แต่ภายหลังได้แยกจากกัน คือให้ ไอซีเป็นมารดาแห่งฮอรัส แต่ฮาเธอร์เป็นแม่นม จึงปรากฎรูปฮาเธอร์ในลักษณะวัว กำลังให้นมฟาโรห์อยู่

#มัมมี่
donhathai2
เด็กกองถ่าย
25 มี.ค. 53 เวลา 18:57 4,791 2 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...