มัมมี่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1
เนื่องจากฟาโรห์เอเมนโนพิสและพระนางอาห์โมซิสเมอเย็ต-อมัน ไม่มีพระราชโอรส คงมีแต่พระราชธิดา และแต่ละพระองค์ก็ไม่ประสงค์จะนั่นบันลังก์ ดังนั้นจึงตกแก่บุตรบุญธรรมนามว่าทุตโมซิส ที่ 1 สืบทอดบันลังก์ต่อมา พระราชกรณียกิจของพระองค์คือ พระองค์ทรงขยายการก่อสร้างวิหารคาร์นัคออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เกี่ยวกับมัมมี่ ของพระองค์ ปรากฏว่ามัมมี่ที่มีป้ายชื่อติดอยู่ว่าทุตโมซิสที่ 1 ซึ่งค้นพบที่สุสานไดเยอร์ เอล บาห์ริ นั้น นักไอยคุปต์วิทยา ได้ตรวจสอบด้วยวิธีที่ทันสมัยแล้วปรากฏว่าไม่ใช่มัมมี่ของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 ที่แท้จริง ก็เป็นอันว่าเรื่องราวของ มัมมี่ฟาโรห์พระองค์นี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้
มัมมี่ทุตโมสซิสที่ 2
ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากทุตโมซิสที่ 1 คือ ทุตโมซิสที่ 2 โอรสบุญธรรมพระองค์หนึ่งมัมมี่ฟาโรห์พระองค์นี้ต่อมา มีคนพบว่าอยู่ในสภาพที่ถูกทำลายยับเยิน จากคมมีดและขวานของพวกขโมยนั่นเอง
มัมมี่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3
ทุตโมซิสที่ 3 นั้นหลังจากขึ้นครองราชย์แล้วพระองค์ก็ทรงขยายดินแดนไปอย่างกว้าขวางจนสามารถคลอบคลุม ดินแดนต่างๆของเอเชียไมเนอร์ได้ทั้งหมด ทำให้ไอยคุปต์ยิ่งใหญ่และมั่นคงขึ้นอีกครั้งหนึ่งโดยพระองค์เสด็จสวรรคตในปี 1450 ก่อนคริสกาล ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ไม่ได้ช่วยมัมมี่ของพระองค์ให้รอดจากพวกเงื้อมมือขโมยไปได้ พระศพถูก พวกขโมยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนจนยากที่จะนำมาต่อกัน แต่นักบวชยุคหลังได้ทำมัมมี่ของพระองค์ใหม่โดนใช้เผือกมาทำ เป็นอวัยวะที่ขาดหายไปส่วนพระพักษ์ก็ ใช้หน้ากากแทนทำให้มัมมี่ของพระองค์ดูผิดส่วนสัดไปมากที่เดียว
มัมมี่ฟาโรห์เอเมนโนพิสที่ 2
ฟาโรห์เอเมนโนพิสที่ 2ปกครองไอยคุปตอจากพระราชบิดา ทุตโมซิสที่ 3 พระองค์ทรงมีพระวรกาย แข็งแรงผิด ปกติชำนานในการใช้อาวุธด้วยมือทุกชนิดมีความสามารถในการรบถึงขนาดขยายดินแดนไอยคุปต์ไปได้ กว้างใหญ่กว่าเดิม ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงแสดงพระปรีชาสามารถด้วยการสังหารนัดโทษจำนวนนับสิบด้วยกระบอง และสังหารหัวหน้า ก่อการกบฏซีเรียทั้งหกคนด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง และได้แบกศพขึ้นไปยังราชรถด้วยพระองค์เอง ซึ่งยังความ ประหลาดใจให้แก่ศัตรูอย่างมาก พระองค์ทรงปกครองไอยคุปต์ 25 ปี และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุได้ 45 พรรษา มัมมี่ของพระองค์มีคนพบในภายหลังปรากฏว่าสมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว
มัมมี่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 4
มัมมี่ของพระองค์ที่ค้นพบปรากฏว่าตัวหดลงมาผิดปกติบางทัอาจเป็นเพราะโรคภัยไข้เจ็บที่ทำให้พระองค์สวรรคต มีผลต่อเนื่องกัน จากการตรวจสอบมัมมี่ของพระองค์พบว่ามีลักษณะ พระพาหาวางบนพระอุระในท่าถือคฑากษัตริย์ พระนข (เล็บ) ขาวใสสะอาว สังเกตุได้ว่ามัมมี่ของพระองค์นั้นดูเหมือนจะกระทำด้วยความเร่งรีบ เนื่องจากพบว่ามีความไม่เรียบร้อย หลายแห่ง
มัมมี่ฟาโรห์ตุตันคาเมนแห่งราชวงส์ที่ 18
มัมมี่ของพระองค์ที่ค้นพบปรากฏว่ายังตงสภาพสมบูรณ์ที่สุดจนมาทั่งถึงปจจุบันนี้ และยังเก็บรักษาพระวรกายไว้ใน ห้องเก็บพระศพในวิหารบริเวณหุบผากษัตริย์ มัมมี่ของพระองค์จัดเป็นมัมมี่ที่แห้งสนิทที่สุด ผ้าพันพระศพแข็งและหนา ประมาณ 3 เซนติเมตร และเรียบเสมอกันตลอด พระเศียรโล้นเนื่องจากโกนพระเกศาออกหมด จากการตรวจสอบยังไม่มี ข้อมูลใดๆระบุว่าพระองค์ทรงสวรรคตเนื่อด้วยเหตุใด แต่พบรอยแผลเล็กๆบนพระปรางค์ด้านซ้าย
มัมมี่ของฟาโรห์เรมเซสที่ 2
มัมมี่ของพระองค์จัดได้ว่าเป็นมัมมี่ที่สวยงามมาก ยังคงสภาพสมบูรณ์แบบแทบทุกส่วน แต่ก็มีหลายแห่ง ที่สภาพเปลี่ยนไป เช่นพระทนต์แหกหักและมีโพรงลึก มีรอยบวมเป็นฝีหลายแห่งจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า พระองค์ทรงได้รับความทรมาน จากโรคเจ็บปวดตามพระโสภี (ตะโพก) และพระอุรุ (ต้นขา-ขาอ่อน) เนื่องจากโรคไขข้อ อักเสบ