การท่องเที่ยวจังหวัดเชจูโด (Jeju-do) หรือ เกาะเชจู อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ โดยเกาะ นั้นอยู่ทางใต้ของโซลเป็นหนึ่งในจังหวัดทั้งเก้าประเทศเกาหลี หากคุณเดินทางโดยเครื่องบินจากโซลจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทั้งยังมีเที่ยวบินตรงจากโตเกียว โอซากา นาโงย่า ฟูกูโอกะ เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง มายัง เชจู อีกด้วย
นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถเดินทางมาจาก พูซาน วานโด อินชน ยอซู หรือ มกโพ โดยเรือเฟอร์รี่ก็ได้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่แยกออกไปจากแผ่นดินใหญ่ และมี บรรยากาศโรแมนติคแบบประเทศในเขตร้อน โดยมีสี่ฤดูและอากาศอบอุ่นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปีและในฤดูร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยคือ 22 -26 องศาเซลเซียส คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานและนักท่องเที่ยวจึงนิยมไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้
จังหวัดเชจูโด เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในแถบชายฝั่งด้านเหนือส่วนกลาง และมีสนามบินนานาชาติ รวมทั้งเป็นที่ ตั้งของโรงแรมทั้งแบบตะวันตกและแบบเกาหลี บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเชจู มีภูมิประเทศเป็นหินภูเขาไฟรูปทรงแปลกประหลาดคล้ายกับมังกรกำลังอ้าปาก เรียกว่า โขดหิน ยงดูอัม จึงเป็นที่สนใจของนักท่อง เที่ยวในสวนทัมนา มกซกวน มีการจัดวางหินซึ่งแกะสลักเป็นรูปร่างต่างๆ สลับกับรากไม้แห้ง
จากนั้นเดินทางไปเยือน พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน เชจู เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะของเชจู ภายใน พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้น บ้าน และธรรมชาติวิทยา เชจู มีการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน ไม้พันธุ์ต่าง ๆ สัตว์ และแร่ธาตุซึ่งพบได้ตามธรรมชาติใน เชจูโด
ต่อมาขอแนะนำให้คุณไปเยือน อุทยานแห่งชาติภูเขา ฮัลลาซาน ประกอบด้วยภูเขา ไฟสูงตระหง่านที่ได้ดับไปเป็นเวลานานแล้ว และทุ่งนา ป่าเขา หมู่บ้านเล็ก ๆ และ โรงแรมชั้นดีบนหาดทรายขาวสะอาด มีทางหลวงตัดข้ามเกาะ 5.16 และ 1,100 โรดส์ ตัดผ่านด้านที่ไม่สูงชักนักของอุทยานแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนเกาะแห่งนี้ คุณจะสามารถมองเห็นยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมโผล่พ้นกลุ่มเมฆ ภูเขา ฮัลลาซาน มีความสูง 1,950 เมตรจากระดับน้ำทะเลและเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ
หลังจากนั้นเดินทางไปชม ปากปล่องภูเขาไฟ ซานกึมบูรี เป็นหนึ่งในปากปล่องภูเขาไฟทั้งสามแห่งบนเกาะ เชจู อีกสองแห่งได้แก่ ทะเลสาบ เพ็งนกทัม ที่ยอดเขา ฮัล ลาซาน และซงซานโป หรือยอดเขาตะวันขึ้น ปากปล่องภูเขาไฟ ซานกึมบูรี มีเส้นรอบวงยาว 2 กม.
ในบริเวณนี้มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ทั้งแบบกึ่งโซนร้อนแบบภูมิอากาศอบอุ่น และแบบภูเขาทั้งหมด 420 ชนิด จนเป็นที่รู้จักในหมู่นักพฤษศาสตร์ว่า เป็นขุมสมบัติแห่งพรรณไม้ เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเยือนปากปล่องภูเขาไฟซานกึมบูรี คือ ในฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ร่วง
จากนั้นห่างจากตัวเมืองเชจู ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 35 กม. จะเป็นที่ตั้งของเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งคุณจะได้พบกับชาวบ้านที่มีความเป็น มิตรอาศัยอยู่ใน บ้านที่สร้างด้วยหิน มุงหลังคาด้วยฟาง และล้อมรอบด้วยกำแพงหินอย่างในสมัยโบราณ
ถัดมาขอแนะนำให้คุณไปเยือน ถ้ำมานจังกุล อยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มีความยาว 13.4 กม. จึงจัดเป็นถ้ำที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของลาวาที่ยาวที่สุด ในโลก
ต่อมามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆสุดปลายด้านตะวันออกของเกาะ ซึ่งมี ปล่องภูเขาไฟทรงกรวยคว่ำเป็นภูมิประเทศที่เด่นชัดของบริเวณนี้ หินทรงกรวยคว่ำนี้มีชื่อเรียกว่า อิลชุลบง หรือ ยอดเขาแห่งตะวันรุ่ง เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ ทั้งหมด 360 แห่ง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนเกาะทางเดินแคบ ๆ จากเบื้องล่างมุ่งไปสู่ขอบปล่องภูเขาไฟทางด้าน ตะวันตกและเลยไปจนถึงยอด ถ้าคุณปีนขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดก็ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมหัศจรรย์ โดยเฉพาะตอนอาทิตย์ขึ้น
จากนั้นไปชมความงดงามของหาดปะการังเพียงแห่งเดียวของเกาหลีกันที่ เกาะอูโด ชื่อนี้ได้มาจากรูปลักษณะที่คล้ายกับวัวกำลังนอนอยู่บนหญ้า เกาะนี้มีชื่อเสียงมาก สำหรับอูโดพัลเกียง สถานที่ 8 แห่งที่สวยงามของเกาะอูโด
ต่อมาขอแนะนำให้คุณเดินทางไปชมสัญลักษณ์อันเก่าแก่ของเกาะเชจู คือ ทอลฮารุบัง และ เฮียนโย ทอลฮารุ บัง หรือ หินปู่ เป็นรูปปั้นทำจากหินลาวาสลักเป็นรูปคนแก่ ใจดีมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ในสมัยก่อนรูปปั้นทำหน้าที่คุ้มครองสถานที่ต่าง ๆ แต่ปัจจุบันนี้เป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูป
อีกทั้งรูปปั้นจำลองของ ทอลฮารุบังยังมีจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึก และมีขนาดต่าง ๆ ให้เลือกตั้งแต่ขนาด 1 นิ้วไปจนถึงขนาดใหญ่กว่าของจริงส่วน เฮียนโย คือหญิง สาวชาวบ้านซึ่งดำน้ำลงไปในทะเลเพื่อเก็บหอยเม่น เปลือกหอย และปลาหมึกยักษ์ ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะเห็นหญิงสาวเหล่านี้ดำผุดดำว่ายอยู่บริเวณชายฝั่ง...
ตอนต่อไปคือ เที่ยวเกาะเชจู ตอน 2 ลัดเลาะเมืองซกวิโพ - ฮัลลิม ชมช็อกโกแลตจากทั่วโลก