มัมมี่ฟาโร ในอียิปต์

มัมมีฟาโรห์เด็ดคาเร-ไอเซซิแห่งราชวงศ์ที่ 5

                 มัมมี่ฟาโรห์พระองค์นี้ถูกขโมยไป และได้รับกลับคืนในสภาพมัมมี่โทรมมากที่สุด ประวัติของฟาโรห์องค์นี้มี น้อยมาก ทราบเพียงแต่ว่า พระองค์เคยเสด็จประพาสเมืองนูเบียครั้งหนึ่งมัมมี่ของพระองค์ถูกพบที่ห้องเก็บพระศพ ในพีระมิดแห่งหนึ่ง ซึ่งพระองค์ทรงสั่งให้สร้างขึ้นที่เมืองซัคคารา ปรากฏว่าเหลือเพียงพระพักตร์และพระวรกายครึ่งซีกเท่านั้น ส่วนกระดูกหลาย ชิ้นหายไป นอกจากนี้ยังพบอวัยวะเก็บเครื่องใน (คาโนปิค) ของพระองค์ใต้หลุมเล็กๆ กลางห้องเก็บพระศพอีกด้วย

 

                                                                      มัมมีฟาโรห์อูนัส
               ฟาโรห์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ที่ 5 ซึ่งเก็บรักษาไว้ในห้องเก็บพระศพภายในพีระมิดเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่เมืองซัคคารา พระศพถูกขโมยไปเช่นกัน เมื่อสำรวจแล้วพบว่ามัมมี่ของพระองค์เหลือเพียงพระนลาฎ พระหัตถ์ พระเศียรบางส่วน ที่ยังคงมีพระเกศาติดอยู่

 

มัมมี่ของฟาโรห์ซีเควนเนนเรทา

ฟาโรห์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ที่ 17 พระองค์ขึ้นครองราชย์ในสมัยที่อียิปต์ตกอยู่ภายใต้การปกครอง ซึ่งต่องเผชิญกับ ปัญหาทางการเมืองซึง่เป็นครั้งที่รุนแรงครั้งหนึ้งในอียิปต์ นอกจากนั้นยังถูกพวกชนเผ่าฮิกซอสรุกรานชายแดนตลอด พระองค์ ทรงสวรรคตด้วยการถูกปลงพระชนม์ในสนามรบกับชนเผ่าฮิกซอสเมื่อมีพระชนมายุ 40 พรรษา พระศพของพระองค์ ได้รับการทำมัมมี่เช่นเดียวกันมัมมี่ของพระองค์ถูกทำโดยการแช่พระศพไว้ใน น้ำเกลือเฉยๆ ไม่มีการเอาอวัยวะภายในออก เมื่อนักไอยคุปต์วิยาแกะผ้าพันพระศพออกพบว่ามีกลิ่นเห็นมาก สภาพพระศพแตกออกเป็นส่วนๆสังเกตุได้ว่าที่พระพระพักตร์ มีรอยแผลลึกภึง 6 แผล มีรอยแตกร้าวตามขอบพระเนตร พระปรางค์ด้านขวา และพระนาสิก คล้ายถูกแทงด้วยทวน หรือหลาวอย่างรุนแรง จากหลักฐานนี้แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในสนามรบจริง แต่ถึงแม้ว่าวันนั้น กองทัพ อียิปต์ขาดผู้นำ แต่ก็สามารถประสบชัยชนะอย่างแน่นอนเพราะสามารถกันเอาพระศพกลับมาทำพิธีมัมมี่ได้ในที่สุด

 

มัมมี่ฟาโรห์อาห์โมซิส

ฟาโรห์อาห์โมซิสเป็นพระอนุชาของฟาโรห์ซีเควนเนนเร-ทา ได้ทำสงครามกับผู้รุกรามต่างชาติต่อมา และในที่สุด พระองค์ก็ทรงกำจัดพวกฮิกซอสออกจากแผ่นดินไอยคุปต์สำเร็จหลังจากได้ยึดครองเมืองเอวาริสได้ นี่คือเหตุการณ์ที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งของไอยคุปต์ ก่อนจะเข้าสู่ยุคอาณาจักรใหม่ ซึ่งทำให้ไอยคุปต์ตอนล่างและตอนบนรวมกัน ได้อีกครั้งหนึ่ง ฟาโรห์อาห์โมซิสอภิเษกสมรสกับพระขนิษฐาของพระองค์เอง ทรงพระนามว่าเนฟเฟอตาริ มัมมี่ของฟาโรห์ อาห์โมซิสนั้น จากการตรวจสอบของนักวิชาการทำให้ทราบว่าพระองค์ได้รับความทรมานจากโรคกระดูกไขสันหลังอย่าง ร้ายแรง และยังเป็นโรคไขข้ออักเสบนั่นคือหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่า พระองค์ไม่ได้เสียชีวิตในสนามรบแต่อย่างใด เมื่อพระวรกายของพระองค์ได้รับการทำพิธีอาบยาศพในการทำมัมมี่

 

มัมมี่ฟาโรห์เอเมนโนพิส

ฟาโรห์อาห์โมซิสและพระนางเนฟเฟอร์ตาริ ทรงมีพระโอรสพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า เอเมนโนพิส ต่อมาได้ขึ้น ครองราชย์เป็นฟาโรห์เอเมนโนพิสที่ 1 ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีความสามารถสูงพระองค์หนึ่ง อำนาจและพระบารมีของ พระองค์เกรียงไกรแผ่ขยายไปอย่างไพศาล พระองค์ทรงขยายพรหมแดนไอยคุปต์ไกลออกไปกว่าสมัยพระบิดาเสียอีก คือนับตั้งแต่ดินแดนปาเลสไตนืไปจนถึงยูเฟรติส มีผู้ค้นพบมัมมี่ของพระองค์ในสมัยราชวงศ์ที่ 21 ซึ่งนักบวชแห่งอามัน เป็นผู้เก้บรักษาไว้ และในปัจจุบันนี้ยังรักษาไว้เป็นพิเศษ เนื่องจากการพันผ้าพันพระศพได้กระทำไว้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสวยงาม ทั้งปราณีตหามัมมี่อื่นเทียบได้ยาก แต่เป็นที่สังเกตุได้ว่าพระพาหาขวาหายไปเนื่องจากถูกขโมยดึงออก พระเพลาแตกหัก และมีกระดูกบางชิ้นหายไปด้วย

 


0835536808
#มัมมี่
donhathai2
เด็กกองถ่าย
25 มี.ค. 53 เวลา 16:56 11,070 3 26
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...