“โลก”กำลังวิวัฒน์สู่ความตาย! จากคำทำนายของนักวิทยาศาสตร์

 

 

 

“โลก”กำลังวิวัฒน์สู่ความตาย! จากคำทำนายของนักวิทยาศาสตร์

 

 

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลีย ประเทศอังกฤษ ซึ่งสนใจศึกษาข้อมูลว่าด้วย“สภาวะอยู่อาศัยได้ของดาวเคราะห์” (แพลเนท แฮบิแทบิลิตี้) อาศัยสมการเพื่อการคำนวณวิวัฒนาการแห่งดวงดาว เป็นหลักในการคาดการณ์ว่า ในที่สุดแล้ววิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ประจำระบบสุริยะของเราจะส่งผลให้โลก หลุดออกจาก “เขตเหมาะสมกับการอยู่อาศัย” ทำให้มนุษย์จำเป็นต้องอพยพหนีออกจากดาวที่ใช้เป็นบ้านของเรามานานหลายพันหลายร้อยล้านปีในที่สุด

แอนดรูว์ รัชบี หนึ่งในทีมวิจัยดังกล่าวบรรยายสภาวะที่จะเกิดขึ้นเอาไว้ว่า จะเกิดความร้อนทวีขึ้นจนถึงระดับที่น้ำในมหาสมุทรระเหยเร็ว พื้นผิวดินเองก็ร้อนจนไม่สามารถใช้เพาะปลูกและทั้งสัตว์ทั้งคนก็ไม่สามารถใช้พื้นผิวโลกเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกต่อไป “โลกจะร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของความร้อนที่เราไม่สามารถไปทำอะไรกับมันได้” แอนดรูว์ รัชบี กล่าว โดยระบุว่า สาเหตุสำคัญของความร้อนไม่ได้มาจากการสะสมของก๊าซเรือนกระจก แต่เกิดจากวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์เป็นสำคัญ

เมื่อดวงอาทิตย์มีอายุมากขึ้น ปฏิกิริยานิวเคลียร์และการเผาผลาญบนดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณและความรุนแรงมากขึ้น ยิ่งเมื่อการเผาไหม้ลงลึกช่วงที่เรียกกันว่า “เมน ซีเควนซ์” ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนไฮโดรเจนให้กลายเป็นฮีเลียม ซึ่งจะปล่อยความร้อนเพิ่มออกมามากกว่าเดิม ในทางปฏิบัติจึงเท่ากับเป็นการผลัก “เขตพื้นที่อยู่อาศัย” (ฮาบิแทต โซน) ให้เลยออกไปจากบริเวณที่วงโคจรของโลก เปลี่ยนสภาวะบริเวณวงโคจรของโลกให้กลายเป็นเขตที่ร้อนจัดจนไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยอีกต่อไป ส่วนบริเวณที่เคยเย็นจัดที่อยู่รอบนอกก็จะอุ่นขึ้นและอาจเหมาะสมกับการอยู่อาศัยหรือเริ่มต้นของวิวัฒนาการแห่งชีวิตต่อไป

จากการศึกษาวิวัฒนการของเขตพื้นที่อยู่อาศัยของโลกและดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะพบว่า ดาวเคราะห์แต่ละดวงจะมี “ช่วงเวลาของการอยู่ในเขตพื้นที่อยู่อาศัย” ของตัวเองอยู่ เมื่อคำนวณขอบเขตที่เหมาะสมกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตโดยรอบดวงอาทิตย์ของเรา นักวิทยาศาสตร์พบว่า เขตดังกล่าวเคลื่อนไกลออกไปเรื่อยๆ ที่ประมาณ 1 ใน 10 ของเอยู (แอสโตรโนมิคอล ยูนิต-1 เอยูเท่ากับระยะห่างระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ หรือราว 150 ล้านกิโลเมตร) ในทุกๆ 1,000 ล้านปี

เมื่อใช้หลักการดังกล่าวมาคำนวณ นักวิทยาศาสตร์พบว่า โลกของเราจะ “หลุด” ออกจาก “ฮาบิแทต โซน” ณ จุดใดจุดหนึ่งระหว่าง 1,750 ล้านปีถึง 3,250 ล้านปีข้างหน้านี้ ตอนนั้น “เขตที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย” จะเริ่มเคลื่อนออกไปเลยวงโคจรของโลก แล้วจะทำให้ ดาวอังคาร ดาวเคราะห์ดวงที่ 4 ปลอดโปร่งและชุมชื้นขึ้น เพราะขยับเข้าไปอยู่ใน “ฮาบิแทต โซน” แทน

แอนดรูว์ รัชบี บอกว่า ถ้ามนุษยชาติยังคงดำรงอยู่ในเวลานั้น ก็ควรต้องออกไปให้ห่างจากโลก ตามการคาดการณ์ของเขาก็คือ ถ้าหากไม่ใช่ไปปักหลักอยู่บนดาวอังคาร ก็อาจกระจายกันออกไปอยู่ตามระบบดาราต่างๆ ที่มีอยู่ไม่น้อยในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ภายใต้ความเชื่อที่น่าสนใจอีกอย่างของรัชบี นั่้นคือ ในเวลานั้นมนุษยชาติจะวิวัฒนาการไปไกลจนแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้มากมายนัก

ในทางกลับกัน นักดาราศาสตร์ก็สามารถใช้วิธีการเดียวกันนี้ ไปตรวจสอบหาได้ว่า ดาวเคราะห์ดวงใดบ้างในระบบดาราใดๆ ที่มีแนวโน้มเอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต หรือใช้คำนวณหาช่วงระยะเวลาที่ดาวเคราะห์แต่ละดวงดังกล่าว

เพราะไม่ดีแน่ถ้าหากอพยพไปปักหลักบนดาวเคราะห์ดวงไหนแล้ว เหลือเวลาอยู่ในฮาบิแทต โซน แค่แป๊บเดียวเท่านั้น!

 

Credit: http://news.tlcthai.com/
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...