เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของปากีสถานรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเพิ่มเป็น 327 คนแล้ว
นายอับดุล ราชีด โกกาไซ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขตอาราวัน ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด กล่าวว่า พบศพผู้เสียชีวิต 285 ศพในเขตอาราวัน และพบอีก 42 ศพในพื้นที่ใกล้เคียง กองทัพปากีสถานส่งกำลังทหารนับร้อยออกไปช่วยเหลือประชาชน หลังเกิดแผ่นดินไหว 7.7 ริกเตอร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ทั่วเอเชียใต้
แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังก่อให้เกิดเกาะขนาดเล็กผุดขึ้นมากลางทะเล ห่างจากชายฝั่งเมืองท่ากวันดาออกไปราว 600 เมตร ที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวปากีสถานอย่างมาก
นายบาห์ราม บาล็อค ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ได้เดินทางไปยังเกาะดังกล่าวในช่วงเช้าวานนี้ เพื่อตรวจสอบสภาพและถ่ายภาพ เขากล่าวว่า เกาะดังกล่าว เป็นเกาะรูปวงรี มีความยาวประมาณ 76-91 เมตร และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 18-21 เมตร
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะดังกล่าวมีพื้นผิวขรุขระและเป็นดินโคลน บางส่วนเป็นกรวดทรายหยาบ และบางส่วนเป็นหินแข็งขนาดใหญ่ นายบาล็อคกล่าวว่า เมื่อขึ้นไปบนเกาะ พบปลาตายจำนวนมาก และเมื่อเดินไปยังด้านหนึ่งของเกาะก็ได้ยินเสียงคล้ายกับแก๊สกำลังพวยพุ่ง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าแก๊สดังกล่าวไม่ได้มีกลิ่นคล้ายก๊าซมีเทน แต่เมื่อใช้ไม้ขีดโยนเข้าไปใกล้ก็พบว่าแก๊สดังกล่าวติดไฟ แต่ไม่ไม่มากนัก และไม่สามารถดับด้วยน้ำได้
นายราชิด ทาเบรซ ผู้อำนวยการทั่วไปสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า พลังงานที่ได้รับการปลดปล่อยจากการเคลื่อนตัวทางธรณีวิททยาทำให้เกิดแก๊สที่ไม่ติดไฟในก้นทะเล โดยก้นทะเลใกล้กับเมืองกวันดา หรือที่เรียกว่าชายฝั่งมากรานนั้น เป็นแหล่งสะสมของแก๊สที่มีโมเลกุลของน้ำ หรือแก๊สแช่แข็ง ที่มีส่วนประกอบของก๊าซมีเทน โดยจะอยู่ใต้พื้นดินในระดับความลึกประมาณ 300-800 เมตร เขากล่าวว่า เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัว ก็จะก่อให้เกิดความร้อนและการปล่อยแก๊สผ่านรอยแยก
ทั้งนี้ เกาะที่ผุดขึ้นมาครั้งล่าสุด นับเป็นเกาะที่สี่ ที่ผุดขึ้นในทะเลแถบนี้ นับตั้งแต่ปี 1945 และเป็นเกาะที่สาม ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 1999 และ 2010 ได้เกิดเกาะผุดขึ้นกลางทะเลห่างจากชายฝั่งเมืองออร์มารา บริเวณใกล้กับสามเหลี่ยมปากแม่น้ำฮิงกอล โดยหนึ่งในภูเขาไฟดินโคลนที่เป็นที่รู้จักดีคือภูเขาจันทรากัพ ที่ตั้งอยู่ในแผ่นดินห่างจากชายฝั่งทะเลไม่มากนัก